ไม่ได้มาเล่นๆ! จีนสั่งธนาคาร-แพลตฟอร์มชำระเงิน หยุดสนับสนุนคริปโตเคอเรนซี่


ดูเหมือนว่าทางการจีนจะไม่เห็นด้วยกับสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่สักเท่าไหร่ โดยล่าสุดได้ขยายเวลาปราบปราม พร้อมทั้งบอกธนาคาร และแพลตฟอร์มชำระเงินให้หยุดสนับสนุนการทำธุรกรรมผ่านสกุลเงินดิจิทัล

เมื่อวันศุกร์ (18 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ทางการจีนได้สั่งปิดเหมืองสำหรับการขุดบิทคอยน์ในจังหวัดเสฉวน ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์ลดลงกว่า 10% ในวันจันทร์ และการซื้อขายยังคงทรงตัว โดยมูลค่าของคริปโตเคอเรนซี่ลดลงประมาณ 50% นับตั้งแต่ทำสถิติสูงสุด 63,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนเมษายน

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันจันทร์ 21 มิ.ย. ธนาคารกลางจีน, ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (PBOC) ออกมากล่าวว่ามีการเรียกธนาคารใหญ่หลายแห่ง รวมถึงบริษัทแพลตฟอร์มชำระเงินมาทำความเข้าใจเข้มงวดในการซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่มากขึ้น โดยธนาคารถูกสั่งไม่ให้ทำธุรกรรม การซื้อขาย, หักเงินเข้าบัญชี เกี่ยวกับสินค้า หรือบริการที่ใช้สกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่

ด้านธนาคารเกษตรแห่งประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตามคำแนะนำของ PBOC ธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบสถานะของลูกค้าที่เข้าข่ายทำธุรกรรมผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับการขุดสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับธนาคารไปรษณีย์จีน ที่ออกประกาศไม่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านสกุลเงินดิจิทัล

นอกจากนี้ Ailpay แพลตฟอร์มชำระเงินออนไลน์ ซึ่งมี Ant Group บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินเป็นเจ้าของ กล่าวว่าจะมีการวางระบบมอนิเตอร์ตรวจจับการทำธุรกรรมคริปโตเคอเรนซี่ที่ผิดกฎหมาย

มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากทางการจีนมีคำสั่งปิดเหมืองสำหรับขุดบิทคอยน์ในจังหวัดเสฉวน โดยตามการวิจัยของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ระบุว่า จีนผลิตบิทคอยน์คิดเป็น 65% ของการผลิตทั่วโลก ซึ่งจังหวัดเสฉวนเป็นแหล่งผลิตรายใหญ่อันดับ 2
เมื่อเดือนที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีจีน ประกาศมาตรการปราบปรามการขุด และการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางรายออกมาเตือนว่าราคาบิทคอยน์อาจจะตกลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ หลังนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการที่มีกฎระเบียบเข้มงวดมากขึ้น

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/business-57549543 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง