จับตามองรอบตัดสินของโครงการ DOTs จาก Sea (ประเทศไทย)กับการปั้น “คนรุ่นใหม่” สู่ “นักพัฒนาและผู้ประกอบการดิจิทัล” ภายใต้โจทย์ SME Solution Lab ที่ส่งเสริมร้านค้ารายย่อยได้จริง
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการแข่งขันอย่างเข้มข้นตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา สำหรับโครงการ Digital Opportunities for Talents (DOTs) การแข่งขันเพื่อบ่มเพาะผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ ประจำปี 2564 ที่ปีนี้ได้แข่งขันภายใต้โจทย์ “SME Solution Lab” ซึ่งจัดขึ้นโดย Sea (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ การีนา (Garena) ผู้พัฒนาและให้บริการเกมออนไลน์ชั้นนำระดับโลก ช้อปปี้ (Shopee) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน และซีมันนี่ (SeaMoney) ผู้ให้บริการดิจิทัลเพย์เมนต์และการเงินดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีจุดประสงค์โครงการเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้วางแผนธุรกิจ และลงมือทำจริงร่วมกับร้านค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซตลอดระยะเวลา 2 เดือน พร้อมชิงเงินรางวัลรวมกว่า 200,000 บาท
โครงการ DOTs ในปีนี้ ได้รับการตอบเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าร่วมสมัครราว 1,000 คน ก่อนถูกคัดเลือกเหลือเพียง 50 คน (25 ทีม) เพื่อร่วมเวิร์กช็อปค้นหา 4 ทีมสุดท้าย เพื่อเข้าแข่งขันในรอบ Final Presentation แม้ว่าการจัดกิจกรรมจะอยู่ในรูปแบบออนไลน์ตลอดทั้งการแข่งขัน แต่มั่นใจได้ว่าผู้เข้าแข่งขันจะได้เพิ่มพูนศักยภาพการทำธุรกิจ และมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ (Sharing and Networking) ระหว่างผู้เข้าแข่งขัน ตลอดระยะเวลา 2 เดือน
นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) เผยถึงการแข่งขัน และความสำเร็จของโครงการฯ ว่า “ตลอดระยะเวลาการแข่งขันอย่างเข้มข้นเกือบ 2 เดือน ผู้เข้าแข่งขันได้พัฒนาทักษะและแสดงออกถึงศักยภาพ พร้อมเติบโตเป็นผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ในอนาคต ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่ผู้เข้าแข่งขันได้ทำงานร่วมกับเจ้าของร้านค้า SME ในการพัฒนากลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาจริงสำหรับร้านค้าที่ได้รับมอบหมาย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ด้านร้านค้าก็ได้แนวคิดใหม่ ๆ ในการเติบโตทางธุรกิจ Sea (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดโครงการฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่ได้มีทักษะสำคัญของผู้ประกอบการดิจิทัล เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพในอนาคต พร้อมกันนี้ยังได้สนับสนุนผู้ประกอบการที่เผชิญกับอุปสรรคในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายของ Sea (ประเทศไทย) ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคและยกระดับการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อยด้วยเทคโนโลยี พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Digital Nation ด้วยการพัฒนา Digital Talent โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศต่อไป”
ทั้งนี้ Sea (ประเทศไทย) ได้ Tact Social Consulting บริษัท Social Enterprise ที่เชื่อในการนำพลังของคนรุ่นใหม่ไปแก้ไขปัญหาสังคม ร่วมดำเนินการจัดการแข่งขันโดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้ร่วมพัฒนาธุรกิจ SME โดยมีจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมทั้งหมด 25 ร้าน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ไม่เคยมีหน้าร้านบนอีคอมเมิร์ซ และได้เริ่มสร้างหน้าร้านออนไลน์ สร้างยอดขาย พร้อมเรียนรู้การขายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นครั้งแรก
กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่มีหน้าร้านบนอีคอมเมิร์ซ แต่ยังไม่เคยลงทุนด้านการตลาด ก็ได้เรียนรู้วิธีการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มออนไลน์จนเห็นผล
กลุ่มที่ 3 กลุ่มร้านค้าทั่วไปบนแพลตฟอร์มช้อปปี้
ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับโควตาสนับสนุนพิเศษ ในการเข้าร่วมแคมเปญ Flash Sale รวมถึง Shopee Ads Credit รวมมูลค่ากว่า 10,000 บาทต่อทีม เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันและร้านค้าได้ทดลองทำการตลาดและพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยตลอดระยะเวลาโครงการฯ ผู้เข้าแข่งขันได้รับการบ่มเพาะทักษะและองค์ความรู้ที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจดิจิทัล ผ่านกิจกรรมจัดหลักสูตรอบรม หรือ Bootcamp โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ทั้งทีมงาน Sea (ประเทศไทย) และช้อปปี้ ที่ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อปูพื้นฐานทักษะธุรกิจดิจิทัล เรียนรู้หลักการบริหาร การตลาด การสร้างแบรนด์ และเทคนิคการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ บนช้อปปี้ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะร่วมกันพัฒนาแนวทางการสร้างการเติบโต ให้ธุรกิจ SME ไทยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก่อนเข้าสู่ช่วงการแข่งขัน วางแผนกลยุทธ์ และลงมือทำจริงร่วมกับผู้ประกอบการทั้ง 25 ราย
สำหรับการแข่งขันในรอบสุดท้าย (Final Presentation) ถูกจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ โดยได้รับเกียรติจาก ดร. ศรุต วานิชพันธ์ Director of Sea (Thailand), คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), คุณวชิระ แก้วกอ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ร่วมเป็นคณะกรรมการทรงคุณวุฒิตัดสินผลงานในรอบ 4 ทีมสุดท้ายนี้อีกด้วย โดยเปิดโอกาสให้ทั้ง 4 ทีมได้แสดงศักยภาพผ่านการนำเสนอแผนการดำเนินงาน พร้อมส่งต่อความรู้ รวมทั้งแบ่งปันเรื่องราวแรงบันดาลใจของการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนา SME ไทย ให้เติบโตในยุคดิจิทัล
และทีมที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศได้แก่ นายธรรมปพล มะโนวรรณ และ นางสาวณัชชา เวชพานิช จากทีม Five More Minutes พร้อมรับเงินรางวัลมูลค่า 80,000 บาท ด้วยแผนธุรกิจสำหรับร้าน FLET tumbler นวัตกรรมแก้วเย็นรักษ์โลก โดยใช้ความรู้และทักษะดิจิทัลที่ได้เก็บเกี่ยวตลอดโครงการฯ มาประยุกต์ใช้ในแผนการดำเนินงานเพื่อช่วยให้ FLET tumbler สามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างแท้จริง โดยมียอดขายที่เติบโตสูงขึ้นกว่า 4 เท่า มียอดผู้ติดตามเพิ่มขึ้นถึง 1,000 คน ภายใน 7 สัปดาห์ พร้อมยังสามารถหากลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหม่ ที่มีโอกาสซื้อของจากร้านค้า นั่นก็คือกลุ่มลูกค้ารักษ์โลกได้อีกด้วย
นอกจากทีมที่ชนะเลิศแล้ว อีก 3 ทีมในรอบ Final Presentation ยังทำผลงานได้โดดเด่น และช่วยกระตุ้นการเติบโตของร้านค้าที่ได้รับมอบหมายได้จริง ไม่ว่าจะเป็น
– ทีม Chip N Dale Consulting กับร้าน Sanfun Sunday คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท
– ทีม Work Hard หาทำ Harder กับร้าน Hangry Monster คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท
– และทีม Double up กับร้าน Soapsoul คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
นอกจากทีมที่กล่าวถึงในข้างต้น ยังมีรางวัล Top Performance มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท สำหรับ 4 ทีมที่สามารถสร้างการเติบโตของยอดขายร้านค้าได้สูงสุดภายใน 7 สัปดาห์ และรางวัล Top Learner มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท สำหรับ 4 ทีมที่เรียนรู้เร็วและทำผลงานได้ดีในช่วงเวิร์กช็อป และช่วงการลงมือสร้างกลยุทธ์ไปพร้อมกับผู้ประกอบการ
นางสาวณัชชา เวชพานิช ตัวแทนทีม Five More Minutes ได้กล่าวถึงความประทับใจต่อโครงการฯ ว่า “รู้สึกดีใจที่ได้เลือกเข้ามาร่วมโครงการนี้ เพราะได้รับประสบการณ์ที่ดีเยอะมาก ทั้งความรู้ที่ทางทีมงานหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยติวเข้มข้นให้ แถมยังเจอร้านที่มี Mindset ดีมาก ๆ อยากจะลองทำการตลาดแบบไหน อยากลองทำอะไรใหม่ ๆ พี่ ๆ ร้านค้าสนับสนุนเต็มที่ จนสุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์ที่ทั้งเราและร้านค้าต่างก็พอใจทั้งคู่ ได้เรียนรู้และเติบโตไปพร้อม ๆ กัน”
ส่วนทางด้าน นายเติมศักดิ์ ลิ้มศิริรัตนกุล ผู้ประกอบการจากร้าน FLET tumbler ได้กล่าวเสริมในฐานะที่ได้เข้าร่วมดำเนินการกับทีมผู้ชนะว่า “ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DOTs การที่มีน้อง ๆ เข้ามาช่วยพัฒนาร้านค้า เหมือนกับการที่เพิ่มความหลากหลายของไอเดียและวิธีการทำตลาดใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ ทำให้สามารถเห็นโอกาสทางการขายเพิ่มในกลุ่มตลาดใหม่ ๆ รวมถึงวิธีการใช้โฆษณาและสื่อทางการขายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โฟกัสการสื่อสารข้อมูลของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้ตัดสินใจง่ายมากขึ้น”
นอกจากนี้ ตลอด 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา ร้านค้าทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถสร้างยอดขายโดยเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มช้อปปี้เพิ่มขึ้นกว่า 3.1 เท่า ต่อวัน และมียอดสั่งซื้อเติบโตเฉลี่ย 2.7 เท่า มีผู้เข้าชมร้านค้าเพิ่มขึ้น 2.2 เท่า และสร้างยอดขายบนช้อปปี้โดยรวมมูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาทเลยทีเดียว
ด้านผู้เข้าแข่งขันทั้ง 25 ทีม ก็ได้รับโอกาสพิเศษในการเข้าร่วมสัมภาษณ์งาน กับบริษัทในเครือ Sea (ประเทศไทย) นอกจากนี้ Sea (ประเทศไทย) ยังมีแผนสร้างเครือข่ายผู้ร่วมโครงการ DOTs รุ่นที่ 1 เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเพื่อต่อยอดและสนับสนุนผู้ประกอบการในระยะยาว และร่วมเป็นต้นแบบในการผลักดัน SME ไทยในยุคดิจิทัลต่อไปในอนาคต
ผู้สนใจสนับสนุน 25 ร้านค้าในโครงการ DOTs สามารถเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากร้านค้าทั้ง 25 ร้าน ภายใต้แคมเปญพิเศษ รับคูปองส่วนลด 15% ได้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 ธันวาคม 2564 ที่ https://shopee.co.th/m/DOTs-SMEsolutionlab
สำหรับผู้ประกอบการหรือคนรุ่นใหม่ ที่สนใจสมัครเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ DOTs : Digital Opportunities for Talents ในปี 2565 สามารถกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารได้ที่ https://forms.gle/nWJ5LYqyMdbeKBe57 ครับ
และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร โครงการ Digital Opportunities for Talents (DOTs) เพิ่มเติมได้ที่
Website: www.dots.in.th
Facebook: www.facebook.com/dots.thailand
Instagram: www.instagram.com/dots.thailand
รับชมงานประกาศผลรางวัลย้อนหลังได้ที่: https://www.facebook.com/events/286227026701150
ติดตามข่าวสาร Sea Limited ในประเทศไทย ได้ที่ https://www.seathailand.com/