SME Bank ติดปีกเอสเอ็มอีเกษตร กระจายความสำเร็จทั่วประเทศ


SME Bank เดินหน้ายกระดับ เอสเอ็มอี เกษตร นำความสำเร็จจากการหนุน “ต้นน้ำ โฮลดิ้ง” เป็นโมเดลขยายผลสู่เอสเอ็มอีเกษตรทั่วประเทศ  มุ่งผลักดันเข้าระบบ ตามด้วยเติมทุนดอกเบี้ยต่ำ และติดปีกช่วยทำตลาดในและต่างประเทศ ออฟไลน์คู่ออนไลน์

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) หรือ ธพว. เผยว่า ธนาคารวางแนวทางสนับสนุนยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้านการเกษตร  โดยจะนำต้นแบบจากที่เคยสนับสนุน “บริษัท ต้นน้ำ โฮลดิ้ง จำกัด” ธุรกิจคลัสเตอร์สินค้าสมุนไพร แบรนด์ “Tonnam” จ.เชียงราย จนประสบความสำเร็จมาแล้ว นำไปประยุกต์ใช้สนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการเกษตรรายอื่นๆ ทั่วประเทศ

วิธีการจะให้ บ.ต้นน้ำ ฯ ทำหน้าที่ “พี่เลี้ยงธุรกิจ” แนะนำและสร้างแรงบันดาลใจแก่กลุ่มเกษตรกรรายอื่นๆ ให้เห็นตัวอย่างจริงว่า หากมุ่งมั่นยกระดับธุรกิจเกษตรของตัวเองจะสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ และประสบความสำเร็จในธุรกิจได้เช่นกัน ควบคู่กับทาง ธพว. ส่งทีมพัฒนาลงพื้นที่ให้ความรู้ และเป็นที่ปรึกษาธุรกิจ เพื่อผลักดันให้เข้าสู่ระบบ จดทะเบียนเป็น  “นิติบุคคล” ซึ่งจะทำให้เข้าถึงแหล่งทุนของภาครัฐได้

พร้อมเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยถูกไว้รองรับ เช่น สินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว วงเงิน 50,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยเพียง 3% คงที่ 3 ปีแรก ผ่อนนาน 7 ปี สามารถใช้ บสย.ค้ำประกันฟรี 4 ปีแรก เพื่อกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรแปรรูป ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนและต่อเนื่อง หรือบริการอื่นๆ ในชุมชน และสินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 วงเงิน 8,000 ล้านบาท จากกระทรวงอุตสาหกรรม

สำหรับผู้กู้ที่ขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล) คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 1% คงที่ตลอดระยะเวลา 7 ปี ปลอดชำระเงินต้น 3 ปีแรก

เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีปัญหาทางการเงินสามารถกู้ได้ (แม้เคยปรับโครงสร้างหนี้ หรือผ่อนชำระไม่ต่อเนื่องมาก็ตาม) สำหรับใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุงกิจการ และใช้เป็นเงินหมุนเวียน โดยไม่ต้องใช้ บสย. ค้ำประกัน

นอกจากนั้น สนับสนุนความรู้ โดยจัดอบรมสัมมนา และส่งเสริมการตลาด ทั้งช่วยทำประชาสัมพันธ์  และพาร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ  ทั้งในและต่างประเทศ  รวมถึง ส่งเสริมขยายตลาดผ่านออนไลน์  เป็นต้น

ด้านนางสาวโสรัฐฎา วรกิตติโชติกรณ์ ผู้บริหาร บริษัท ต้นน้ำ โฮลดิ้ง จำกัด เล่าว่า ธุรกิจก่อตั้งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เริ่มจากร้านขายสินค้าสมุนไพรเล็กๆ เปิดในโรงเรียนบ้านสันกอง  อ.แม่จัน จ.เชียงราย  เจตนาเพื่อจะช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกตลาดยังไม่กว้างนัก เพราะอาศัยขายแค่หน้าร้าน ในปีต่อมา จึงริเริ่มขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ “อาลีบาบา” ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักและต้องการของคู่ค้าต่างชาติมากยิ่งขึ้น และจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อจากโครงการ “กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ” ของรัฐบาล

โดยกระทรวงอุตสาหกรรม  ผ่าน ธพว.    จำนวน 1 ล้านบาท  ช่วยให้มีเงินทุนพัฒนาธุรกิจ โดยนำไปซื้อจักรเย็บผ้า เพื่อทำกระเป๋าแฮนด์เมด ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศอย่างยิ่ง  กับพัฒนาระบบแพลตฟอร์ม E-Marketing ทำหน้าที่เป็นตลาดกลางรวบรวมสินค้าเกษตรจากทั่วประเทศ ขายผ่านออนไลน์ไปยังคู่ค้าทั่วโลกผ่านเว็บไซต์อาลีบาบา ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการเกษตรกว่า 7,000 ราย ที่ได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มดังกล่าว

นางสาวโสรัฐฎา เผยด้วยว่า SME Bank มีบทบาทช่วยพัฒนาธุรกิจ ทั้งด้านการทำบัญชี เตรียมเอกสาร การเขียนแผนธุรกิจ และให้คำปรึกษาต่างๆ จนสามารถเข้าสู่ระบบจดทะเบียนเป็นบริษัท และ ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากกองทุนพัฒนาฯ ช่วยให้ธุรกิจเติบโต มีศักยภาพรองรับความต้องการของคู่ค้าต่างชาติได้

นอกจากนั้น  ยังช่วยส่งเสริมการตลาด เช่น พาร่วมงานแสดงสินค้า  HKTDC Hong Kong Houseware Fair 2018  ณ เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ทำให้เกิดการจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าต่างชาติกว่า 20 ราย  สร้างออเดอร์เฉพาะจากงานนี้กว่า 2-5 ล้านบาท

“สำหรับผู้ประกอบธุรกิจด้านเกษตรที่อยากเข้าถึงแหล่งทุนของภาครัฐ  ต้องมุ่งมั่นยกระดับตัวเองเพื่อเข้าสู่ระบบให้ได้ พร้อมยอมรับในกระบวนการพิจารณาที่จำเป็นต้องรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเป็นหนี้สูญ เมื่อเข้าสู่ระบบได้แล้ว เชื่อมั่นได้เลยว่า ธุรกิจของคุณจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้น รวมถึง ได้รับความเชื่อถือจากคู่ค้าทั้งจากในและต่างประเทศด้วย”

นางสาวโสรัฐฎา แนะนำในตอนท้าย

ข่าวการเงินอื่นๆ >>> [คลิก]