เอ็กซิมแบงก์ลุย ปล่อยกู้ ให้กับธุรกิจบริการหลายสาขา หนุนยาม-แม่บ้าน


ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจบริการของไทย ปล่อยกู้ ให้กับธุรกิจบริการหลายสาขา หนุนยามแม่บ้าน

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ในปี 61 ธนาคารตั้งเป้าหมายสนับสนุนธุรกิจบริการของไทยโดยจะ ปล่อยกู้

เพื่อให้ธุรกิจไปขยายกิจการในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม เพิ่มขึ้น เนื่องจากในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมีธุรกิจบริการหลายสาขาที่ขาดแคลนและมีความต้องการสูงมาก เช่น

  • ธุรกิจโรงแรม
  • ร้านเสริมสวย
  • คลินิกศัลยกรรมเสริมความงาม
  • ธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหาร
  • ร้านกาแฟ
  • ร้านสปา
  • ตลอดจนอาชีพบริการรับเช็ดกระจกบนตึกสูง
  • ธุรกิจแม่บ้าน
  • จ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

“ที่ผ่านมาธุรกิจไทยเน้นการส่งออกสินค้าไปขายในกลุ่มประเทศเหล่านี้เป็นหลัก แต่ธุรกิจบริการกลับยังไปไม่มาก ประกอบกับที่ผ่านมาเศรษฐกิจในประเทศเพื่อนบ้านขยายตัวกันสูงมาก มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาถนน อาคารบ้านช่องมากมาย แต่ยังขาดกลุ่มคนที่เข้าไปบำรุงรักษา หรือให้บริการดูแลด้านต่าง ๆ เช่น มีการลงทุนสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ ก็ยังต้องการคนซ่อมบำรุง หรือมีการสร้างตึกสูงก็ต้องหาคนเช็ดกระจก แม่บ้านทำความสะอาด รวมถึงการจัดระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีโอกาสสูงมาก และที่สำคัญยังมีต้นทุนค่อนข้างต่าเพราะค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานประเทศเพื่อนบ้านยังถูกกว่าเมืองไทยคิดเพียง 80 บาทต่อวัน ถูกกว่าไทยที่เกิน 300 บาทต่อวัน”

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธสน.กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 61 ธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยกู้ใหม่อีก 47,000 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้างทะลุ 1 แสนล้านบาท เพื่อเน้นนำผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไปทำการค้าและลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ถือเป็นตลาดใหม่ที่มียอดการค้าและลงทุนเติบโตในอัตราสูงมาก

ทั้งนี้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ยอดการส่งออกไทยไป ซีแอลเอ็มวีขยายตัวจาก 2.6 แสนล้านบาท เป็น 8.5 แสนล้านบาท ขณะที่การลงทุนยิ่งเติบโตเพิ่มสูงกว่าจาก 3.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 4.7 แสนล้านบาท ดังนั้น เอ็กซิมแบงก์จึงจะเน้นการพาผู้ประกอบการไทยไปขยายธุรกิจเพิ่มในตลาดเหล่านี้ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีภาคบริการและก่อสร้างที่กำลังมีโอกาสอีกมาก และภายในปีนี้จะมีการเปิดสำนักงานเพิ่มที่ต่างประเทศอีก 2 แห่ง ได้แก่ ที่สปป.ลาว และกัมพูชา

บทความที่เกี่ยวข้อง