ช้อปออนไลน์ ใช้เงินสด ระวังให้ดี “สรรพากร” เพิ่มมาตรการจับตากลุ่มเสี่ยง


นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า มีการปล่อยข่าวว่า หลังจากที่มีการประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายอีเพย์เมนต์ โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการโอนเงินเข้าธนาคารสำหรับกลุ่มผู้ค้าสินค้า เพราะจะไม่มีการตรวจสอบและให้ไปใช้เงินสดแทนนั้น ยืนยันว่า กรมสรรพากรจะมีนโยบายให้กับผู้ที่โอนเงินเพื่อซื้อสินค้า และรับค่าสินค้าผ่านระบบอีเพย์เมนต์ โดยจะสิทธิประโยชน์ทางภาษีมอบให้ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลกับกรมสรรพากรอย่างครบถ้วน

นอกจากนี้ หากใครใช้เงินสด หรือรับเงินสดเพื่อขายสินค้า หรือทำธุรรมทางการเงินผ่านเงินสด ก็จะถูกเพ่งเล็งให้มีการตรวจสอบมากขึ้น โดยกรมสรรพากร ได้มีการทำข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และแยกแยะฐานข้อมูลผู้เสียงภาษี (Risk Base Audit)ทำให้แยกข้อมูลผู้เลี่ยงภาษีได้แม่นยำมากขึ้น

“ใครทำธุรกรรมด้วยระบบอีเพย์เมนต์ ก็จะอำนวยความสะดวกให้ เพราะถือว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลครบถ้วน แต่ใครใช้เงินสดจะถูกจัดเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือมีการแตกบัญชีเป็นหลายๆ บัญชีก็จะมีการตรวจสอบด้วยเช่นกัน ดังนั้นขอให้ดำเนินธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา” นายเอกนิติ กล่าว

อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวยืนยันด้วยว่า กฎหมายอีเพย์เมนต์ไม่ได้พุ่งเป้าเพื่อเก็บภาษีกับผู้ค้าออนไลน์ แต่มีนโยบายเพื่อควบคุมและตรวจสอบกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่อยู่ในตลาดค้าสินค้าออนไลน์ ซึ่งต้องเสียภาษีตามหน้าที่ของคนไทยอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในส่วนประเด็นเรื่องบัญชีเดียว ที่กำลังเร่งให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลงทะเบียนอย่างถูกต้องนั้น ถือเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วสำหรับเอสเอ็มอีที่ดำเนินบัญชีการเงินไม่ถูกต้อง ก็ขอให้แก้ไขและลงทะเบียนเพื่อประโยชน์ทางการค้าของตัวเอง

“บัญชีเดียวจะมีประโยชน์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อไปกู้เงินกับสถาบันการเงิน ที่จะให้ใช้บัญชีที่ยื่นกับสรรพากรเท่านั้น โดยผู้ประกอบการที่มายื่นถูกต้องภายใน 30 มิถุนายน 2562 จะไม่เสียเบี้ยปรับเงินเพิ่ม และย้ำว่าไม่ใช่การนิรโทษกรรมภาษี” อธิบดีกรมสรรพากร กล่าว