“กสิกรไทย” จับมือ “คุมอง” ลุยตลาดแฟรนไชส์ “การศึกษา”


แบงก์รวงข้าวผนึก “คุมอง” สถาบันติวชั้นนำของประเทศลุยตลาดแฟรนไชส์ พร้อมปล่อยกู้วงเงินสินเชื่อใครอยากเปิดสาขาสูงสุด 70% ด้านคุมองประเทศไทยมองตลาดใหญ่ พร้อมขยายสาขาอีก 22 แห่งในปีนี้

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ คุมอง (ไทยแลนด์) เจ้าของแฟรนไชส์ด้านการศึกษา เพื่อสนับสนุนทางการเงินให้กับผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจแฟรนไชนส์ของคุมอง ซึ่งสินเชื่อดังกล่าวมีชื่อว่า KBank Franchise Solution และยังจะช่วยสนับสนุนการเงินกับเจ้าของแฟรนไชน์เดิมที่ต้องการปรับปรุงศูนย์เรียนรู้คุมองด้วย

ทั้งนี้ ในรายละเอียดธนาคารกสิกรไทยจะสนับสนุนวงเงินสินเชื่อสูงสุด 70% ของมูลค่าการลงทุน และสามารถเลือกผ่อนชำระสูงสุดได้นานตลอดอายุสัญญาแฟรนไชส์ อีกทั้งผู้ที่ขอกู้สินเชื่อไม่ต้องกังวลเรื่องหลักประกัน เนื่องจากมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อ และค่าธรรมเนียมอัตราพิเศษเมื่ออนุมัติและตั้งวงเงินภายใน 30 กันยายน 2562

“ปัจจุบันผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรหลานมากขึ้น ทั้งการเรียนภาคปกติในโรงเรียนและการเรียนเสริมจากสถาบันกวดวิชาชั้นนำ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์การศึกษาที่ในปัจจุบันมีแฟรนไชส์ซอร์มากถึง 98 ราย มูลค่าตลาด แฟรนไชส์การศึกษาในปี 2562 ประมาณ 42,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% ของมูลค่าตลาดแฟรนไชส์ของไทย ดังนั้น ผู้ที่สนใจจะลงทุนเปิดแฟรนไชส์การศึกษาต้องเลือกแบรนด์ที่มั่นคงและมีอนาคต เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมั่นคง” นายสุรัตน์ กล่าว

ขณะที่ นายโนโบรุ ทาคาฮิระ ประธานบริษัท คุมอง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า การร่วมมือกับกสิกรไทยเป็นความตั้งใจของคุมองในการขยายโอกาสธุรกิจไปยังตลาดการศึกษาในประเทศไทยที่ยังคงเติบโตไปได้ด้วยดี และบริษัทคาดว่าจะสามารถขยายสาขาทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดได้อีก 22 สาขาในปีนี้ หลังได้ธนาคารกสิกรไทยมาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งจะทำให้คุมองในประเทศไทยมีสาขาครอบคลุม 70 จังหวัดทั่วประเทศ และมากกว่า 500 สาขาได้

ทั้งนี้ คุมอง ถือเป็นแฟรนไชส์ด้านการศึกษาที่มีสาขามากที่สุดในโลก และเป็นแฟรนไชส์ที่มีสาขามากเป็นอันดับที่ 4 ของโลกรองจากแบรนด์แฟรนไชส์ค้าปลีก และร้านอาหารชื่อดัง จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ www.res.cloudinary.com

นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 571 ราย สำหรับธุรกิจที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจเครื่องดื่มและไอศกรีม และธุรกิจการศึกษาในสัดส่วน 24% 23% และ 17% ตามลำดับ โดยกลุ่มธุรกิจการศึกษามีอัตราการเติบโตมากถึง 23% จากการที่ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการศึกษาของบุตรหลาน