“โรงรับจำนำปูม้า” แห่งเดียวในไทย หนุนชาวประมงมีปูม้าขายตลอดปี พร้อมปล่อยคืนสู่ทะเลวันละ 2 ล้านตัว แก้วิกฤติปูม้าเสี่ยงสูญพันธุ์
หลายคนที่ชอบกินอาหารทะเล รับรองหนึ่งในเมนูนั้นต้องมี “ปูม้า” ด้วยความที่เป็นเมนูยอดนิยม ทำให้มีราคาแพง ขณะที่มีปูม้าในทะเลก็เริ่มมีจำนวนน้อยลงทุกที โดยที่อ่าวสะพลี จ.ชุมพร เกิดไอเดียโรงรับจำนำปูม้า ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ปูม้าของคุณลุงณรงค์ ม่วงทองคำ วัย 69 ปี ชาวบ้าน ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ที่เป็นผู้ริเริ่มโครงการวิสาหกิจชุมชน “โรงรับจำนำปู” เปิดมา 3 ปี มีผู้คนเยี่ยมชมตลอด เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงานเพื่ออนุรักษ์พันธุ์ปูม้า หลังเจอวิกฤตปูม้าลดลงจนเกือบจะสูญพันธุ์ไปจากทะเลอ่าวสะพลี
คุณลุงณรงค์เล่าว่า สมัยยังเป็นหนุ่ม อายุ 25 ปี ได้ออกทะเลจับปูม้าได้ครั้งละ 100-200 กิโลกรัม จากนั้นมาก็เริ่มจับปูม้าได้น้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบัน อายุจะ 70 แล้ว ชาวประมงออกไปจับปูม้าแต่ละครั้งได้ไม่ถึง 10 กิโลกรัม เป็นเรื่องน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ หลักการสำคัญก็คือ โรงรับจำนำปูม้าจะรับจำนำปูม้าที่มีไข่เต็มท้องตัวละ 20 บาท แล้วนำไปไว้ในถังเพื่อให้ปูม้าได้สลัดไข่ ซึ่งก็ใช่เวลาประมาณไม่ถึงอาทิตย์ และหากว่าชาวประมงที่มาจำนำจะมาไถ่ปูกลับก็จะคิดดอก 1 บาท เพื่อเข้ากองทุน แต่ส่วนใหญ่ก็จะจำนำขาดเลยคือไม่มาเอาคืน
ขั้นตอนก็เริ่มต้นด้วยการ หลังรับซื้อปูม้าที่มีไข่เต็มท้องมาแล้วจะนำมาขังไว้โดยให้ออกซิเจน เพื่อให้มันหายใจได้สะดวก แต่ไม่ต้องให้อาหารแก่แม่ปู โดยแม่ปูที่มีไข่สีดำเพียง 2 วันก็จะสลัดไข่ออกจนหมด ขณะที่แม่ปูที่มีไข่สีเทา ใช้เวลา 5 วันจึงจะสลัดไข่ออก ส่วนแม่ปูที่มีไข่สีเหลือง ใช้เวลา 7 วันในการสลัดไข่ นอกจากนี้ แม่ปูแต่ละตัวจะสลัดไข่ได้ประมาณ 700,000 ฟอง โรงรับจำนำปูม้าจึงสามารถนำไข่ออกไปปล่อยทะเลได้ทุกวัน วันละหลายล้านตัว
ลุงณรงค์ บอกว่า พอไข่หลุดจากตัวแม่ปูก็จะกลายเป็นปูตัวเล็ก ๆ ถ้าไม่รีบนำไปปล่อย ลูกปูจะกินกันเอง ทำให้ปูตายเกือบหมด แต่ถ้านำไปปล่อยทันทีจะทำให้มีโอกาสรอดบ้าง
อัตรารอดของลูกปูโดยเฉลี่ยประมาณเปอร์เซ็นต์เดียวก็ถือว่ามาก เพราะแม่ปู 1 ตัวออกไข่ 700,000 ฟอง เท่ากับจะมีปูรอดตายเกือบ 10,000 ตัว พอแม่ปูสลัดไข่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเอาแม่ปูไปขายแม่ค้าที่ตลาดได้กิโลกรัมละ 220-250 บาท ขนาด 7 ถึง 8 ตัวต่อกิโลกรัม กำลังน่ากิน ถือเป็นรายได้หลักของโรงรับจำนำปูม้า ซึ่งนำรายได้ส่วนนี้จ่ายค่าไฟ ค่าออกซิเจน และค่าแรง
ส่วนลูกปูม้าก็จะอนุบาลอีก 2-3 วัน แล้วจะนำคืนสู่ท้องทะเลเพื่อเป็นการอนุรักษ์และเพาะพันธุ์ปูม้าไม่ให้หมดไปจากท้องทะเลไทย ซึ่งแม้จะเริ่มเริ่มโครงการได้เพียง 8 เดือน แต่ได้ปล่อยลูกปูสู่ทะเลได้ถึง 2 ล้านตัวต่อวัน
หลังจากเปิดรับจำนำและปล่อยพันธุ์ลูกปูม้าสู่ทะเลได้ไม่ถึง 8 เดือน พบว่าชาวประมงออกจับปูม้าได้มากขึ้น และพากันนำปูไข่มาส่ง จากจำนำ 20 บาท มาเป็น 10 บาท ไปจนถึงไม่ขอรับเงิน เพราะชาวประมงเห็นความสำคัญของโรงรับจำนำปูม้าแห่งนี้ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการอนุรักษ์พันธุ์ปูม้า และเพื่อให้ชาวประมงทำประมงได้อย่างยั่งยืน