สหรัฐมุ่งสร้างเสถียรภาพอุปทานแร่หายาก ท่ามกลางความขัดแย้งด้านภาษีกับจีน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐได้เพิ่มการผลิตแร่หายาก รวมถึงร่วมมือกับญี่ปุ่นและประเทศพันธมิตรอื่นๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของวามพยายามที่จะลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ประเทศต่างๆ รวมถึงจีนและรัสเซีย จะระงับการส่งออกแร่หายาก

สหรัฐได้ออกคำแนะนำต่างๆ เพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าสินแร่จากต่างประเทศ หลังจากที่จีนระบุว่า จะจำกัดการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐ เพื่อตอบโต้ในการทำสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุในรายงานซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า “หากจีนหรือรัสเซียยุติการส่งออกแร่หายากไปยังสหรัฐ และประเทศพันธมิตรของสหรัฐเป็นระยะเวลานาน ซึ่งเหมือนกับการคว่ำบาตรแร่หายากของจีนในปี 2553 นั้น ภาวะชะงักงันด้านอุปทานอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อห่วงโซ่อุปทานแร่หายากของสหรัฐและของต่างประเทศ”

รายงานดังกล่าวระบุถึง การที่จีนจำกัดการส่งออกแร่หายากไปยังญี่ปุ่นหลังจากที่มีการปะทะกันทางทะเลใกล้หมู่เกาะเซนกากุในปี 2553 โดยหมู่เกาะดังกล่าวเป็นหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ปกครองโดยญี่ปุ่น แต่จีนและไต้หวันอ้างสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะดังกล่าว

คำแนะนำดังกล่าวรวมถึง ความพยายามในด้านการวิจัยและการพัฒนาที่ก้าวหน้า การสนับสนุนกิจกรรมภายในประเทศด้านห่วงโซ่อุปทาน และการเพิ่มจำนวนแรงงานชาวอเมริกันสำหรับสินแร่ที่กำหนดไว้ 35 รายการ ซึ่งถือว่าสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐ อาทิ ยูเรเนียม ไทเทเนียม และ แร่หายาก

รายงานดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้มีความร่วมมือกันมากขึ้นกับญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา สหภาพยุโรป และ เกาหลีใต้ เพื่อรับประกันเสถียรภาพของอุปทานแร่หายาก

นายวิลเบอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า “ตามรายละเอียดคำแนะนำในรายงานนั้น รัฐบาลกลางสหรัฐจะดำเนินการเพื่อรับประกันว่า สหรัฐจะไม่ถูกตัดขาดจากอุปทานแร่หายาก”

คำแนะนำดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ระหว่างหน่วยงานที่ครอบคลุมเพื่อหาทางอุดช่องโหว่ภายในห่วงโซ่อุปทานแร่หายากอย่างเต็มที่ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการใช้งานขั้นปลายทั้งในภาคพลเรือน และการป้องกันประเทศ

ทั้งนี้ แร่หายากเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับสินค้าต่างๆ ของชาวอเมริกันหลายล้านคน รวมถึง สมาร์ทโฟน เครื่องบิน คอมพิวเตอร์ และระบบกำหนดตำแหน่งทั่วโลก ตลอดจนถึงแบตเตอรียานพาหนะ กังหันลม และ ไฟส่องสว่างแบบประหยัดพลังงาน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ในปัจจุบัน สหรัฐพึ่งพาการนำเข้าแร่ 29 ชนิด จากทั้งหมด 35 ชนิด เป็นปริมาณมากกว่า 50% ของอุปสงค์ภายในประเทศ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐไม่มีการผลิตแร่ 14 ชนิด จากทั้งหมด 35 ชนิด และไม่มีขีดความสามารถในการผลิตแร่เหล่านั้นมากนัก