ส่องแนวคิด 2 แบรนด์ดัง กับการเปลี่ยนธุรกิจจาก SME ขนาดเล็ก สู่องค์กรขนาดใหญ่

ด้วยเส้นทางการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กอย่าง SME มีเรื่องให้ต้องแก้ไข และปรับตัวระหว่างทางมากมาย อย่างบริษัทชั้นนำรายใหญ่ๆ ในปัจจุบัน กว่าจะข้ามผ่านจากบริษัทเล็กไปสู่องค์กรขนาดใหญ่ได้ ก็ต้องใช้เวลาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท ให้ความสำคัญเรื่องพนักงาน วางระบบการทำงานชัดเจน พร้อมมองหาพาร์ทเนอร์ด้านต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปได้อย่างมีเสถียรภาพ

ครั้งนี้ขอพาไปสร้างแรงบันดาลใจทางธุรกิจผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่อง “รักกันยาวๆ” ของธนาคารกรุงไทย ที่สะท้อนเส้นทางธุรกิจของ 2 องค์กรใหญ่ อย่าง KCG ผู้นำเรื่องเนยและชีสอันดับ 1 ของไทย และ ตราแม่ครัว เจ้าของสูตรลับตำนาน ซอสหอยนางรมที่มีทุกบ้าน ซึ่งสามารถขับเคลื่อนธุรกิจจากการเป็น SME ขนาดเล็ก สู่บริษัทขนาดใหญ่ไปอย่างมั่นคง โดยมี “กรุงไทย” คอยอยู่เคียงข้าง ผ่านการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ใช้ระยะเวลาผ่อนนานแบบยาวๆ

KCG ผู้ผลิตเนยและชีสรายใหญ่ของไทย กับพาร์ทเนอร์ที่ดี เหมือนเนยที่อร่อยไม่รู้ลืม”

KCG ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตเนยและชีสชั้นนำของไทย ที่ก่อตั้งมากว่า 62 ปี ตั้งแต่ปี 2501 มีผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เนย Allowrie (อลาวรี่) และสินค้ากลุ่มคุกกี้ แยมผลไม้ เยลลี่สำเร็จรูป และเครื่องดื่ม หนึ่งในสินค้าเด่น คือ “ คุกกี้เนยกล่องแดงแบรนด์ Imperial (อิมพีเรียล)” ที่หลายคนคงเคยเห็น และเคยได้รับเป็นของขวัญในช่วงปีใหม่ ซึ่งบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และขยายโรงงานขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง เพื่อผลิตบิสกิต ขนมอบ และเพิ่มกำลังการผลิตเนย ชีส รองรับการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน

เพราะการ ScaleUp ธุรกิจ ไม่ได้ง่าย แต่ใช่จะยากเกินกำลัง หากมีความมุ่งมั่นพยายาม…เมื่อมองถึงช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้ KCG ต้องปรับตัวทางธุรกิจครั้งใหญ่ ก็คือช่วงปี 2515 หรือ 14 ปี หลังจากก่อตั้งบริษัท ซึ่ง ณ เวลานั้นต้องเปลี่ยนจากการซื้อเนย Allowrie กับบริษัทแม่ในออสเตรเลียมาขาย สู่การผลิตด้วยตัวเอง และหลังจากที่ผลิตไปได้กว่า 40 ปี จึงมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากบริษัทแม่มีนโยบายเทคโอเวอร์แบรนด์ และจะไม่ให้สิทธิ์ในการทำตลาดอีกต่อไป…

KCG จึงตัดสินใจลงทุนซื้อแบรนด์มาทำตลาดเองในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็มองหาแหล่งสินเชื่อ และได้ธนาคารกรุงไทย เข้ามาคอยช่วยเหลือ พร้อมให้คำปรึกษามาโดยตลอด

อย่างในปี 2555 บริษัทต้องการสร้าง KCG Excellence Center เพื่อเป็นศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมต่างๆ ขึ้นมา KCG จึงใช้บริการสินเชื่อกรุงไทยที่มีรูปแบบระยะเวลาผ่อนนาน อัตราดอกเบี้ยต่ำอีกครั้ง ทำให้ KCG เป็นบริษัทชั้นนำที่มีการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูงใช้เองภายในองค์กร ผ่านรูปแบบสินเชื่อที่ตอบโจทย์การขับเคลื่อนธุรกิจ และ “กรุงไทย” อยู่เคียงข้างธุรกิจ เป็นมากกว่าธนาคารพาณิชย์

“ความสำเร็จจากธุรกิจ SME จนกระทั่งมาเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เรามีความภูมิใจที่จะต่อยอดธุรกิจ โดยมีธนาคารกรุงไทย อยู่เคียงข้างกับ KCG ต่อไป: ตง ธีระนุสรณ์กิจ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคซีจีคอร์ปอเรชั่น จำกัด”

ตราแม่ครัว ซอสหอยนางรมที่มีทุกบ้าน กับพาร์ทเนอร์ที่ดี คือ เครื่องปรุงสำคัญที่ทำให้ธุรกิจกลมกล่อม

เชื่อว่า…ครัวไทยทุกบ้านคงคุ้นเคยกันดี กับภาพหญิงวัยกลางคนใส่เสื้อสีแดง คลุมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีขาวยืนปรุงอาหาร จนกลายเป็นภาพจำของซอสหอยนางรมตราแม่ครัวมานานกว่า 38 ปี ธุรกิจตราแม่ครัวก่อตั้งขึ้นในปี 2525 ในนามบริษัทจิ้วฮวด จำกัด และบริษัทชลบุรี ตราแม่ครัว ฉลากทอง จำกัด มีแบรนด์ในเครือ ได้แก่ ตราแม่ครัว, ตราฉลากทอง, ตราแม่ครัวฉลากทอง และยังเป็นผู้ผลิตสินค้าอื่นๆ เช่น ซอสพริก ซอสปรุงรส แป้งทอดกรอบ น้ำส้มสายชู, น้ำปลา และซีอิ้วขาว

เมื่อมองถึงความท้าทายระหว่างทาง กว่าจะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ บริษัทต้องพบกับสถานการณ์ยากลำบากครั้งใหญ่ เพราะหลังดำเนินธุรกิจไป 13 ปี หรือในปี 2538 ปัญหาเรื่องระบบ Operation ก็เกิดขึ้นจนผู้แทนจัดจำหน่ายมาบอกว่า สินค้ากำลังจะไปไม่รอด ทำให้ต้องมองหาแหล่งเงินทุนจำนวนมากมาเสริมสภาพคล่องควบคู่กับการลงทุนพัฒนาโรงงาน ซื้อเครื่องจักรทันสมัย และขยายระบบขนส่ง เพื่อกู้วิกฤติครั้งนี้ บริษัทจึงตัดสินใจเข้าไปยื่นขอสินเชื่อก้อนโต ที่มีลักษณะดอกเบี้ยน้อย ผ่อนนานกับกรุงไทย และด้วยความพยายามมุ่งมั่น กรุงไทยได้อนุมัติสินเชื่อ พร้อมคอยแนะแนวทางการทำธุรกิจให้สามารถก้าวต่อไปอย่างไม่สะดุด เช่น การให้คำปรึกษาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนทางการเงินเมื่อต้องทำการค้าระหว่างเทศ ฯลฯ จนท้ายที่สุด “ธุรกิจตราแม่ครัว” ก็ผ่านพ้นวิกฤต พร้อมเดินต่อไปอย่างมีเสถียรภาพ โดยมี “กรุงไทย” เคียงข้างธุรกิจ มาตลอด 25 ปี

“สิ่งที่ประทับใจ กรุงไทย ก็คือ ความจริงใจ ให้คำปรึกษาเรื่องระบบการเงินต่างๆ แนะนำเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน บริการทางการเงินผ่านระบบออนไลน์: เศรษฐี กาญจนวิสิษฐผล ประธานกรรมการบริษัท ตราแม่ครัว จำกัด”

เมื่อธุรกิจประสบปัญหา หรืออยาก ScaleUp ครั้งใหญ่ สินเชื่อดอกเบี้ยน้อยผ่อนยาว คือ ทางเลือกอันชาญฉลาดของ SME

จะเห็นว่าในสถานการณ์ยากลำบากของทั้ง 2 บริษัท สิ่งสำคัญที่จะช่วยพลิกวิกฤติได้ ก็คือ การมีพาร์ทเนอร์ ที่ดี โดยเฉพาะพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่คอยใส่ใจลูกค้าดุจคนใกล้ชิด ซึ่งแนวคิด “เคียงข้างธุรกิจคุณ” ของกรุงไทย ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า “กรุงไทย พร้อมอยู่เคียงข้าง ดูแล SME จนเติบโตกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่” ผ่านการให้คำปรึกษาทางธุรกิจรอบด้าน ทั้งการค้าในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งบริการสินเชื่อ “กรุงไทย SME รักกันยาวๆ” เป็นสินเชื่อรูปแบบผ่อนนาน 10 ปี ดอกเบี้ยเริ่มต้น 4% วงเงินสินเชื่อสูงสุด 100 ล้านบาท ทำให้จำนวนผ่อนต่อเดือนน้อย ลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพิ่มสายป่านทางธุรกิจ ช่วยให้ SME นำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือลงทุนขยายกิจการ เช่น ซ่อมแซม ปรับปรุงสินทรัพย์ถาวร ไปจนถึงการรองรับ Permanent Trading Asset เพียงทำธุรกิจมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ผ่านการตรวจสอบ เครดิตบูโร หรือเป็นกลุ่มที่มียอดขายมากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี และต้องการขอสินเชื่อไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท โดยทั้งหมดนี้แสดงถึงการที่กรุงไทยพร้อมดูแลลูกค้าไปยาวๆ นั่นเอง

สอบถามรายละเอียดสินเชื่อเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย ทั่วประเทศ

ดูรายละเอียดพร้อมลงทะเบียนขอสินเชื่อได้ที่ sme.ktb.co.th 
หรือ ติดต่อ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111