การบริโภค “เท้าไก่” ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในจีน
เท้าไก่ได้รับความนิยมจากชาวจีนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากเท้าไก่อุดมไปด้วยคอลลาเจนและแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากจะสามารถนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารในแต่ละมื้อแล้ว ยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารว่างได้ด้วย เช่น ซุปเท้าไก่ เท้าไก่พะโล้ เท้าไก่ดอง และยำ เท้าไก่รสต่างๆ เป็นต้น ปัจจุบัน เท้าไก่นับเป็นหนึ่งในสินค้าอาหารที่พบบ่อยและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก โดยปริมาณการบริโภคเท้าไก่ของจีนสูงมากกว่า 33,600 ล้านชิ้น/ปี อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณเท้าไก่ที่ผลิตได้ภายในประเทศอยู่ที่ประมาณ 15,000 ล้านชิ้น/ปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน ทำให้จีนต้องพึ่งพาการนำเข้าเท้าไก่จากต่างประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
ประเทศแหล่งนำเข้าเนื้อไก่ของจีนยังคงเป็นประเทศบราซิล สหรัฐอเมริกา รัสเซีย ไทย และเบลารุสเป็นหลัก ในปี 2566 ปริมาณการนำเข้าเนื้อไก่จากประเทศดังกล่าวของจีนอยู่ที่ 679,300 ตัน 254,000 ตัน 127,800 ตัน 120,900 ตัน และ 68,700 ตัน ตามลำดับ หากพิจารณาจากประเภทเนื้อไก่นำเข้า พบว่า เท้าไก่แช่แข็งมีสัดส่วนการนำเข้ามากที่สุดถึง 529,800 ตัน คิดเป็นร้อยละ 40.68 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด ปริมาณการนำเข้าปีกไก่แช่แข็ง (ไม่รวมปลายปีก) อยู่ที่ 356,300 ตัน คิดเป็นร้อยละ 27.36 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด ส่วนปริมาณการนำเข้าเนื้อไก่ติดกระดูกแช่แข็งอยู่ที่ 309,800 ตัน คิดเป็นร้อยละ 23.79 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด
ปัจจุบัน การบริโภคเท้าไก่ของชาวจีนมีลักษณะที่หลากหลายมากกว่าสมัยก่อน นอกจากการนำเท้าไก่ไปปรุงเมนูอาหารแล้ว ยังมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เท้าไก่หรืออาหารว่างจากเท้าไก่ โดยเฉพาะ “เท้าไก่ดอง” ซึ่งเป็นอาหารที่กำลังเป็นที่นิยมและขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นยุคใหม่ แต่ในปัจจุบันผู้บริโภควัยผู้ใหญ่ก็เริ่มนิยมรับประทานมากขึ้นเช่นกัน โดยผู้บริโภคเพศหญิงเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลัก เนื่องจากอาหารว่างจากเท้าไก่มีรสชาติที่อร่อยถูกปาก (มีทั้งรสเปรี้ยวและเผ็ด) และยังมีกลิ่นหอมชวนรับประทานด้วย นอกจากนี้ อาหารว่างจากเท้าไก่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการ รับประทานสะดวก ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคชาวจีน
ในขณะเดียวกัน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เท้าไก่ไม่มีกระดูกกำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภคชาวจีน ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพสูงในตลาดจีน เช่น เท้าไก่ไม่มีกระดูกรสเผ็ด เท้าไก่ไม่มีกระดูกรสมะนาว เท้าไก่ไม่มีกระดูกรสกระเทียม เป็นต้น ในปี 2566 ตลาดออนไลน์ของผลิตภัณฑ์เท้าไก่ไม่มีกระดูกของจีนอยู่ที่ 4.98 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.5 (YoY) ผู้บริโภคชาวจีนจะนิยมสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เท้าไก่ไม่มีกระดูกผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซออนไลน์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 70 ของช่องทางการสั่งซื้อทั้งหมด ผู้บริโภคชาวจีนมีร้อยละ 62.25 จะซื้อเท้าไก่ไม่มีกระดูก 1-3 ครั้งต่อเดือน และมีผู้บริโภคร้อยละ 40.46 ใช้จ่ายเฉลี่ย 41-60 หยวนต่อครั้งในการซื้อเท้าไก่ไม่มีกระดูก ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์อาหารเท้าไก่ไม่มีกระดูกมีฐานการบริโภคอยู่ในระดับหนึ่ง และมีความถี่ในการบริโภคจากลูกค้าที่มั่นคงในตลาดจีน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีราคาปานกลางถึงสูงถือว่ามีศักยภาพค่อนข้างสูงในตลาด
หลังจากที่เศรษฐกิจจีนมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่องว่างด้านกำลังซื้อระหว่างผู้บริโภคในเขตเมืองกับชนบทภายในประเทศจีนลดลง ส่งผลให้การบริโภคอาหารว่างจากเท้าไก่ในจีนค่อยๆ ขยายตลาดจากเขตเมืองไปยังพื้นที่ในชนบท และความต้องการในการบริโภคอาหารว่างจากเท้าไก่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เมื่อสังคมชาวจีนในปัจจุบันให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยของสินค้าอาหารเพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มหันไปเลือกซื้อ “ผลิตภัณฑ์อาหารว่างจากเท้าไก่” ที่ผลิตโดยบริษัท/แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู
ปัจจุบัน จีนนับเป็นตลาดผู้บริโภคเท้าไก่ที่สำคัญของโลก และมีความต้องการนำเข้าเท้าไก่จำนวนมากจากต่างประเทศทุกปี โดยประเทศไทยเป็นแหล่งนำเข้าเท้าไก่ที่สำคัญของจีน ทั้งนี้ จากข้อมูลสถิติของสำนักงานศุลกากรจีน ระบุว่า ในปี 2566 จีนมีการนำเข้าเท้าไก่แช่แข็งจากไทย (HS Code: 02071422) 54,018.37 ตัน คิดเป็นมูลค่านำเข้า 1,887.192 ล้านหยวน หรือประมาณ 9,436 ล้านบาท
ในขณะที่ความต้องการเท้าไก่ในตลาดจีนกำลังเพิ่มสูงขึ้น แต่อุปทานเท้าไก่กลับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุปทานเท้าไก่นำเข้าจากต่างประเทศ สาเหตุที่ส่งผลให้อุปทานเท้าไก่ลดลง คือ การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกทั่วโลก และผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศและต้นทุนการขนส่ง จากข้อมูลสถิติของสำนักงานศุลกากรจีน ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปี 2567 จีนนำเข้าเท้าไก่แช่แข็งรวม 100,000 ตัน ลดลงร้อยละ 30 (YoY) ซึ่งส่งผลให้ราคาเท้าไก่ในบางพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นในท้องตลาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสินค้าเท้าไก่และผลิตภัณฑ์จากเท้าไก่ (แปรรูป) มายังตลาดจีนควรตระหนักหรือให้ความสำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด ได้แก่ ความปลอดภัยของสินค้า กระบวนการผลิต (บริหารต้นทุนวัตถุดิบและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต) การวิจัย/พัฒนา (เพิ่มความหลากหลายของสินค้าและรสชาติใหม่ๆ) ช่องทางการจำหน่าย (ขยายช่องทางฯ/ ดำเนินการทั้งออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กัน) การประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการตลาด (ประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น/กระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้ามากขึ้น)