Smart SME

Business

28 เทรนด์วัตถุดิบอาหาร-เครื่องดื่ม ปี 2025

Speciality Food Magazine เผยถึง28 เทรนด์วัตถุดิบอาหาร-เครื่องดื่ม ที่น่าจับตาในปี 2025 โดยระบุว่าผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลกมาเผยแนวโน้มที่คาดว่าจะครองใจผู้บริโภคในปีหน้า ในขณะที่ผู้ค้าปลีก ผู้ซื้อ และผู้ผลิตเริ่มต้นปีใหม่ คำถามที่ติดอยู่ในใจของพวกเขาคือ “ผู้บริโภคต้องการอะไร” เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย และจากครัวในบ้าน ผู้คนสามารถสัมผัสประสบการณ์อาหารจากทั่วโลกผ่านหน้าจอมือถือ ไม่ว่าจะเป็นสูตรอาหาร รสชาติ หรือวัตถุดิบที่แปลกใหม่ พวกเขาอยากเห็นสิ่งเหล่านี้บนชั้นวางในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าเฉพาะทางมากขึ้น

1. น้ำผึ้งแท้: ผู้บริโภคมองหาน้ำผึ้ง 100% ที่ไม่มีน้ำตาลเติม และน้ำผึ้งรสเผ็ด (Hot Honey) กำลังมาแรง
2. อาหารสเปน: ผู้คนสนใจอาหารท้องถิ่นของสเปน เช่น ชีสเค้กบาสก์และ Pintxos
3. รสชาติเอเชีย: อาหารเวียดนามและฟิลิปปินส์ เช่น เฝอและบั๋นหมี่ รวมถึงส่วนผสมอย่างยูซุและซอสหมูแดงกำลังได้รับความนิยม
4. พิสตาชิโอ: วัตถุดิบยอดฮิตในขนมหวาน เช่น ครัวซองต์ ไอศกรีม และช็อกโกแลต
5. รสชาติจากทั่วโลก: อาหารจากประเทศอย่างตุรกี กรีก และอาร์เจนตินากำลังได้รับความสนใจ
6. ขนมฟินๆ: การทานของว่างพรีเมียมแคลอรีต่ำหรือขนมที่มอบประสบการณ์พิเศษกำลังมาแรง
7. ความยั่งยืน: ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย
8. ขนมวัฒนธรรมต่าง ๆ: เช่น ชิปรสมะม่วงสุก และถั่วผสมเครื่องเทศ
9. ฉลากสะอาด: ผู้บริโภคชอบอาหารที่มีส่วนผสมธรรมชาติและไม่มีสารปรุงแต่ง
10. สัมผัสกรุบกรอบ: อาหารที่เพิ่มความกรอบ เช่น กราโนล่า หรือผลไม้แห้ง
11. ชาเพื่อสุขภาพ: ชาหลากชนิดที่เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการกำลังเติบโต
12. วัตถุดิบจากทะเล: สาหร่ายและพืชน้ำที่อุดมด้วยโปรตีนและสารอาหาร
13. โปรตีน: การบริโภคโปรตีนจากแหล่งต่าง ๆ เช่น เนื้อสัตว์และอาหารเสริมโปรตีน
14. คืนแห่งความสนุกที่บ้าน: การจัดปาร์ตี้ที่บ้านยังคงเป็นที่นิยม พร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะกับโอกาส
15. น้ำดื่มแบบใหม่: น้ำที่เพิ่มคุณประโยชน์ เช่น คอลลาเจน อิเล็กโทรไลต์ และสารต้านอนุมูลอิสระ
16. ไฟเบอร์: อาหารที่เพิ่มไฟเบอร์เพื่อสุขภาพลำไส้กำลังมาแรง
17. ความสะดวกที่หรูหรา: อาหารง่าย ๆ เช่น ไก่ทอด หรือแครมเป็ต แต่เพิ่มความพรีเมียม
18. รสชาติแห่งอดีต: อาหารและของหวานที่สร้างความรู้สึกคิดถึงวัยเด็ก
19. ถั่วและพัลส์: อาหารที่อุดมด้วยไฟเบอร์และโปรตีนจากถั่วและพืชตระกูลถั่ว
20. ผลไม้และถั่วเพื่อสุขภาพ: เช่น ขนมอย่างอินทผาลัมเคลือบช็อกโกแลตและถั่วปรุงรส
21. เนื้อคุณภาพสูง: เนื้อสัตว์คุณภาพจากแหล่งที่ยั่งยืน
22. อาหารจากอังกฤษ: ผู้บริโภคชอบอาหารพื้นเมือง เช่น เนื้อวัว Aberdeen Angus หรือขนมปังโซดา
23. รสชาติใหม่ในเครื่องดื่ม: เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมใหม่ เช่น ใบมะเดื่อหรือเครื่องเทศหมัก
24. โทนิคและมิกเซอร์: เครื่องดื่มผสมที่มีรสชาติแปลกใหม่ เช่น เอสเปรสโซ่ผสมโทนิค
25. วัฒนธรรมเครื่องดื่ม Spritz: ค็อกเทลที่สร้างความสดชื่น เช่น Limoncello Spritz
26. เครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์: การดื่มอย่างมีสติกำลังเพิ่มขึ้น เช่น เบียร์ไร้แอลกอฮอล์และน้ำผลไม้พรีเมียม
27. สุราพรีเมียม: แนวคิดของสุราพรีเมียมพิเศษ จะไม่ได้หมายถึงความหรูหราเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ทุกวันนี้สุราที่มีเรื่องราวความเป็นเอกลักษณ์และความยั่งยืน
28. ไวน์ยั่งยืน: ไวน์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนในกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์

 

Related Posts

Duo Umbrella

Duo Umbrella ร่มด้ามจับคู่จากความคิดเด็กอายุ 15 ปี ผู้พิชิตไอเดียจากรายการ Shark Tank

หากใครอยู่ในวงการธุรกิจ หรือสตาร์ทอัพ เราคงเคยได้เห็นรายการที่นำผู้ประกอบการมาเสนอไอเดียกับสิ่งที่อยากทำ และจะมีเหล่าบรรดานักลงทุน กูรู นั่งฟังพร้อมกับตั้งคำถามในเกี่ยวกับประเด็นที่สงสัย หากสามารถตอบคำถามได้ชัดเจน ผู้ฟังมองเห็นถึงโอกาสว่าธุรกิจนี้สามารถไปได้ ตอบโจทย์ความต้องการก็จะให้เงินทุนไปดำเนินการ แน่นอนว่าเวทีไม่ได้จำกัดเรื่องของอายุ ไม่ต้องเรียนจบระดับปริญญา ขอแค่คุณมีความคิดสุดเจ๋ง โอกาสก็จะเป็นของคุณทันที อย่างกรณีของ Nathaniel Wellen ในวัย 15 ปี เด็กมัธยมปลายจากลอสแองเจลีส ที่ปรากฏตัวในรายการที่มี Shark Tankได้เสนอสิ่งที่เรียกว่า The Duo Umbrella ร่มที่มีด้ามจับขยายได้อีกอันเหมาะสำหรับคนสองคนที่มีความสูงต่างกันให้สามารถยืนข้างล่างได้อย่างสบาย Wellen คิดไอเดียนี้มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยเหตุการณ์มีอยู่ว่าเขาและพ่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ฝนตกหนัก ซึ่งทั้งคู่หลบอยู่ในร่มคันเดียวกัน แต่ด้วยความสูงที่ต่างกัน รวมถึงจังหวะการเดินที่ไม่ไปพร้อมกัน สุดท้ายเปียกทั้งคู่ และปีต่อมาจึงร่วมกับพ่อพัฒนา ออกแบบร่มที่เหมาะกับคน 2 คน มีด้ามจับ 2 อัน พร้อมกับจดสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อย     ในรายการ Wellen แสดงความต้องการที่จะได้เงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) แลกกับหุ้น […]

Bogg Bag

Bogg Bag กระเป๋าพลาสติกโฟมขายริมชายหาดสู่ธุรกิจ 3,000 ล้านบาท

จากจุดเริ่มต้นแบบไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะแก้ปัญหาให้กับเรื่องของการใช้งานที่ของเดิมไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ สู่แบรนด์ Bogg Bag กระเป๋าพลาสติกโฟม น้ำหนักเบา คล้ายยาง ที่มีธุรกิจมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท ที่มาที่ไปของแบรนด์เกิดขึ้นเมื่อ Kim Vaccarella เดินทางไปริมชายหาดพร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่ากระเป๋าที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นลักษณะหวาย หรือตาข่าย และทำมาจากผ้าแคนวาส ซึ่งดูแล้วยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเท่าที่ควร ตรงจุดนี้จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะผลิตสินค้าขึ้นมาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า Vaccarella ต้องการกระเป๋าที่มีความใหญ่พอที่จะใส่สิ่งของที่เราต้องการ มีความทนทาน ไม่เสียทรงง่าย โดยมองไปที่วัสดุอย่าง EVA ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่มีความเบาคล้ายยาง เหมือนกับรองเท้าแบรนด์ Crocs แน่นอนว่าสำหรับกระเป๋ายังไม่มีแบรนด์ไหนทำแบบนี้ หลังจากนั้น เจ้าตัวได้วาดภาพกระเป๋าขึ้นมาบนกระดาษแผ่นหนึ่ง เป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมที่มีรู และมีหูหิ้วออกมา โดย Vaccarella ใช้เวลาลองผิด ลองถูก แต่ก็ได้ชูจุดเด่นในเรื่องของความจุ, ทำความสะอาดง่าย และคงทนอยู่ได้นาน ซึ่งหลังจากนั้นแบรนด์ Bogg Bag จึงเกิดขึ้นกับไอเดียกระเป๋าชายหาดสุดสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม เส้นทางธุรกิจของแบรนด์กระเป๋ารายนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะครั้งหนึ่งบริษัทเกือบจะปิดตัวลงเมื่อคำสั่งซื้อครั้งแรกเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และนี่คือแนวคิดของการพัฒนาแบรนด์จนเดินหน้าประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ได้ เริ่มต้นธุรกิจแบบไม่ได้ตั้งใจ Vaccarella ไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจเลย โดยทำอาชีพเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์จึงไม่เคยคิดว่าจะสร้างแบรนด์ได้สำเร็จ แต่ก็มีกรณีศึกษาที่สร้างแรงบันดาลใจ นั่นคือการเข้าซื้อ Jibbitz […]

แนะทางรอดมหาวิทยาลัย ในยุค AI ดิสรัปชั่น

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลรายงาน “Future of Jobs 2025” ซึ่งมหาวิทยาลัยได้รับเกียรติเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ร่วมมือกับ World Economic Forum ในการวิเคราะห์และเสนอแนวทางรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานระหว่างปี 2568–2573 ข้อมูลสำคัญจากรายงาน Future of Jobs 2025 รายงานนี้ได้สำรวจข้อมูลจาก 1,000 บริษัทที่มีพนักงานรวม 14 ล้านคนใน 22 อุตสาหกรรมจาก 55 ประเทศทั่วโลก พบว่า ตำแหน่งงานใหม่ 170 ล้านตำแหน่งจะเกิดขึ้น จากผลกระทบของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม ตำแหน่งงาน 92 ล้าน ตำแหน่งจะหายไป เนื่องจากระบบอัตโนมัติและความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเติบโตสุทธิของการจ้างงาน จะเพิ่มขึ้น 7% หรือประมาณ 78 ล้านตำแหน่งงานทั่วโลก แม้บางงานจะถูกดิสรัปโดยเทคโนโลยี แต่ลักษณะงานจะถูกปรับให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ต้องการแรงงานที่มีทักษะรอบด้านและสามารถใช้งาน AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันได้อย่างชำนาญ 5 ปัจจัยสำคัญที่กำหนดตลาดแรงงานในปี 2573 เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก […]