ธุรกิจไทย

อธิบดีอรมน พากรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าสู่ปีที่ 102 เดินหน้าสานต่อนโยบายรัฐบาลเต็มสูบสร้างการเติบโตให้ธุรกิจไทยยืนหนึ่งด้วยเทคโนโลยี ควบคู่ธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าสู่ปีที่ 102 เปิดให้บริการระบบจดทะเบียนนิติบุคคล DBD Biz Regist ในรูปแบบ e-Form ที่ใช้งานสะดวกและง่ายขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง ยังสามารถระบุวันจดทะเบียนที่เป็นวันมงคลหรือวันที่ต้องการจดทะเบียนได้ด้วยตนเอง ช่วยตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นประกอบธุรกิจด้วยฤกษ์ที่เป็นมงคล พร้อมยึดมั่นภารกิจสำคัญเดินหน้าสานต่อนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการส่งเสริมภาคธุรกิจไทยให้ยืนหนึ่งบนเวทีการค้าทั้งในและต่างประเทศสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจไทย ควบคู่การสร้างธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนธุรกิจ ขณะเดียวกัน ยังคงคอนเซ็ปต์นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

 


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในวันนี้ (16 มกราคม 2568) เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่ได้เดินทางมาถึงวันสถาปนาครบรอบ 102 ปี โดยกรมฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจไทยและประชาชนได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือมาสร้างโอกาสในทางธุรกิจและตัดสินใจในการลงทุนได้อย่างมีทิศทาง ประกอบกับเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัลระดับสูง สอดรับนโยบายรัฐบาลที่มอบหมายให้กรมฯ เร่งสร้างผู้ประกอบการไทยให้มีความพร้อมแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับกิจกรรมในวันนี้-17 มกราคม 2568 กรมฯ ได้เชิญธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากกรมฯ จำนวน 50 ร้าน มาเข้าร่วมแสดงศักยภาพและจำหน่ายสินค้า ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 3 รวมถึงจัดงานสัมมนาวิชาการเพื่อเสริมความเข้มแข็งทางบัญชีและงบการเงินฉบับใหม่ สร้างความรู้ความเข้าใจระเบียบการจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล เพื่อเติมเต็มองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อผู้ประกอบการยุคดิจิทัล ณ ห้องฉลาดลบเลอสรรค์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ด้วย
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า “ปีที่ 102 นี้ กรมฯ ได้เปิดตัวงานบริการใหม่คือ “ระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางดิจิทัล หรือ DBD Biz Regist” ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดของการใช้บริการ โดยระบบใหม่จะเป็นมิตรและสะดวกต่อผู้ใช้บริการ หรือ User Friendly เช่น ปรับเปลี่ยนการกรอกข้อมูลรายละเอียดการจดทะเบียนให้เป็นรูปแบบ e-Form พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมการปกครอง ไปรษณีย์ไทย เพื่อความสะดวกและลดความซ้ำซ้อนในการกรอกข้อมูล นอกจากนี้ ไฮไลท์ของระบบนี้ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ที่เป็นลูกเล่นเอาใจธุรกิจที่มีความเชื่อหรือศาสตร์สายมู โดยสามารถเลือกจดทะเบียนในวันมงคลที่ต้องการได้ด้วยตนเอง การเพิ่มฟีเจอร์นี้ขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงการปรับงานบริการของกรมฯ ให้สอดรับกับความต้องการของผู้ใช้งาน รวมถึงมีการอ้างอิงกับสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรอบปี 2567 ที่ผู้ประกอบการนิยมเข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งในวันที่เป็นเลขมงคล อาทิ วันที่ 9 เดือน 9, วันที่ 8 เดือน 8 และวันที่ 9 เดือน 1 ถือเป็นการเริ่มต้นธุรกิจด้วยฤกษ์มงคลซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการให้ธุรกิจราบรื่นตั้งแต่ก้าวแรกในการทำธุรกิจ รวมถึงระบบ DBD Biz Regist จะเสริมสร้างศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจในภูมิภาคที่ให้บริการนักลงทุนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย และช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ยั่งยืนในระยะยาวด้วย

ทั้งนี้ เป้าหมายสูงสุดของการพัฒนาระบบให้บริการแบบดิจิทัลที่ง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานก็เพื่อเปลี่ยนให้ผู้ใช้บริการที่เคยชินกับรูปแบบกระดาษหันมาใช้งานผ่านออนไลน์ จนกระทั่งกรมฯ สามารถให้บริการผ่านอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสมบูรณ์ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการแบบ 100%

นอกจากนี้ กรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้รับบริการโดยเฉพาะระบบ DBD Biz Regist ที่มี 4 ดี ได้แก่ ดีแรก ให้บริการที่สะดวกและรวดเร็วให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอจดทะเบียนได้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกที่ทุกเวลา 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็น ต้องเดินทางไปยังสำนักงาน ดีที่สอง ลดการใช้เอกสาร โดยลดการยื่นเอกสารและการใช้กระดาษทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีที่สาม ความปลอดภัยสูง มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูลการและรักษาความโปร่งใสในกระบวนการจดทะเบียนตลอดจนการจัดเก็บข้อมูลนิติบุคคล และดีที่สี่ ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของผู้ประกอบการและหน่วยงานรัฐได้อย่างเป็นรูปธรรม

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะยังคงสานต่อและยกระดับภารกิจทั้ง 3 ด้านให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม โดยยึดถือความต้องการของผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ ได้แก่ 1) บริการจดทะเบียนและบริการข้อมูลนิติบุคคลที่จะต้องให้บริการด้วยความรวดเร็วกว่าเดิม ลดภาระต่างๆ ของผู้ใช้งานระบบ ควบคู่กับการส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศที่ง่ายต่อการประกอบธุรกิจ มีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการลงทุน นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ซึ่งกรมฯ จะเดินหน้าให้บริการข้อมูลธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เพื่อเป็นผู้ช่วยให้กับประชาชนได้ใช้วิเคราะห์ข้อมูลและประเมินคู่ธุรกิจ 2) ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ เร่งพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจไทยให้แข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้องค์ความรู้ที่เป็นเทรนด์การตลาดโลกมาส่งต่อให้กับผู้ประกอบการได้ใช้ปรับตัว อาทิ เช่น แนวคิด ESG และโมเดลเศรษฐกิจ BCG พร้อมต่อยอดโครงการพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็ง อาทิ e-Learning โดย DBD Academy, Digital Village, Smart โชห่วย Plus และ Local มีดี และ 3) สร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ ให้ขับเคลื่อนด้วยธุรกิจสีขาวตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธรรมาภิบาลธุรกิจ ที่สำคัญคือการกำกับดูแลธุรกิจให้ดำเนินการภายใต้กฎหมายอย่างถูกต้อง และทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อการป้องปรามพฤติกรรมนอมินิหรือธุรกิจอำพราง ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้มอบหมายให้กรมฯ เร่งแก้ไข

การเดินทางมาถึงปีที่ 102 นี้ต้องยอมรับว่าเส้นทางที่ผ่านมามีความท้าทายหลายด้าน ในฐานะอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าต้องขอขอบคุณพันธมิตรที่ให้ความร่วมมือในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และยังคงมีแผนการทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป และที่จะขาดไปไม่ได้คือบุคลากรของกรมฯ ทุกคนที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และทำงานกันอย่างหนักตลอดมา โดยทุกคนมีเป้าหมายและทิศทางไปในทางเดียวกันคือ ยึดถือประโยชน์ของธุรกิจและประชาชนเป็นศูนย์กลางในการให้บริการ เพื่อนำพากรมฯ ให้ก้าวไปสู่องค์กรชั้นนำด้านบริการและขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย

อ่านข่าวอื่นๆ คลิก