รู้จัก มะม่วงขายตึก-มะม่วงแรดแปดริ้ว สินค้า GI ใหม่จากฉะเชิงเทรา

กระทรวงพาณิชย์ ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ใหม่ 2 รายการ ได้แก่ “มะม่วงขายตึกแปดริ้ว” และ “มะม่วงแรดแปดริ้ว” สินค้ายอดนิยมจากจังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างชื่อเสียงในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 87 ล้านบาท

GI เครื่องมือเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่น
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การขึ้นทะเบียน GI เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของกรมทรัพย์สินทางปัญญาในการส่งเสริมสินค้าชุมชนท้องถิ่น โดย GI ไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าเพิ่ม แต่ยังช่วยยกระดับความเชื่อมั่นในแหล่งที่มาของสินค้า พร้อมทั้งส่งเสริมการสร้างงานและรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างยั่งยืน

ปัจจุบัน จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือ “เมืองแปดริ้ว” มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว 5 รายการ โดย มะม่วงขายตึกแปดริ้ว และ มะม่วงแรดแปดริ้ว เป็นสินค้าใหม่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนต่อจากมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า, มะพร้าวน้ำหอมบางคล้า และมะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว

พื้นที่อุดมสมบูรณ์ ต้นกำเนิดมะม่วงคุณภาพ
จังหวัดฉะเชิงเทรามีสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเกษตร โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำบางปะกงและคลองท่าลาด ที่ดินเต็มไปด้วยธาตุอาหารจากการผสมผสานระหว่างน้ำจืดและน้ำกร่อย ทำให้มะม่วงที่ปลูกในพื้นที่นี้มีคุณภาพโดดเด่น

  • มะม่วงขายตึกแปดริ้ว มีตำนานเล่าว่า ความอร่อยของมะม่วงนี้ทำให้ผู้คนยอมขายบ้านขายตึกเพื่อซื้อมารับประทาน ผลมะม่วงลักษณะคล้ายหัวใจ เนื้อสีเหลืองอมส้ม รสชาติมัน หวานอมเปรี้ยว กรอบอร่อย จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้บริโภครู้จักดี
  • มะม่วงแรดแปดริ้ว เป็นมะม่วงที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยลักษณะผลที่มีผิวเปลือกเขียวเข้มเมื่อแก่ เนื้อกรอบ รสชาติมัน หวานอมเปรี้ยว และกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อผลสุกจะมีเนื้อสีเหลืองละเอียด รสชาติหวานละมุน ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนามและญี่ปุ่น

สร้างโอกาสให้สินค้า GI สู่ตลาดสากล
สินค้าทั้งสองชนิดไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่น แต่ยังส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชาติ โดยมีการวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น TOPs, ตลาดจริงใจ Farmers’ Market, กูร์เมต์ มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Born Thailand เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

การขึ้นทะเบียน GI ของมะม่วงขายตึกแปดริ้วและมะม่วงแรดแปดริ้ว จึงไม่เพียงแต่สะท้อนถึงคุณภาพและเอกลักษณ์ของผลผลิตไทย แต่ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกด้วย