ชายวัย 52 ปีหมดไฟทำงาน ตัดสินใจซื้อธุรกิจป๊อปคอร์น ปัจจุบันสร้างรายได้กว่า 3 พันล้านบาท
September 11, 2024 October 16, 2024
Charies Coristine ชายที่เคยมีความสุขกับการทำงานที่ Morgan Stanley โดยจังหวะชีวิตแบบนี้ดูจะเป็นอะไรที่ลงตัว แม้จะต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อซื้อขายหุ้นในตลาดโตเกียว และลอนดอน แต่ตัวเขาก็เริ่มหมดไฟกับสิ่งที่ทำอยู่ พร้อมทั้งหากิจกรรมอะไรใหม่ ๆ ทำ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนไปรับประทานอาหารมังสวิรัติ, นั่งสมาธิ รวมถึงลงทะเบียนเรียนหลักสูตร MBA
ระหว่างที่อยู่ร้านบาร์บีคิว Coristine ได้พบกับเจ้าของบริษัทขนม LesserEvil ที่เข้ามาเจรจาถึงความเป็นไปได้ที่จะขายธุรกิจ แต่ Coristine ไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารเลย อย่างไรก็ตาม เขามีความคิดที่จะเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ และชื่นชอบชื่อบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกันกับ “วิถีชีวิต” และ “การมีสติ”
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2011 Coristine ตัดสินใจซื้อ LesserEvil ในราคา 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ บวกกับการชำระเงินอนาคตอีก 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางความสุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะตัวเองมาเป็นผู้ประกอบการ โดย LesserEvil มุ่งหวังที่จะนำเสนอป๊อปคอร์นที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นขนมทางเลือก
ธุรกิจของ Coristine เติบโตเป็นอย่างมาก ในฐานะซีอีโอ และประธาน เขาสามารถเพิ่มยอดขายรวมต่อปีถึง 103.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2023 พร้อมกับนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในร้านค้าปลีกรายใหญ่ และร้านค้าต่าง ๆ ทุกหัวมุมทั่วสหรัฐฯ
ปัจจุบัน แบรนด์ LesserEvil จำหน่ายป๊อปคอร์นหลากหลายชนิด และขนมที่คล้ายกับ Cheetos ด้วยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำให้ธุรกิจมีกำไรมาตั้งแต่ปี 2021
“ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาหารเลย ถามว่าบ้าหรือเปล่า แต่ก็เป็นเรื่องดี ถ้าผมค้นคว้า และวิเคราะห์คงประเมินว่ามีโอกาสประสบความสำเร็จต่ำ” Coristine กล่าว
นวัตกรรมปัจจัยความสำเร็จ
เมื่อ Coristine ซื้อ LesserEvil เป็นช่วงกำลังทำงานอยู่ที่ TD Bank และกำลังศึกษาหลักสูตร MBA ที่ Cornell University Graduate School และหลังจากเรียนจบจึงได้เริ่มทำงานแบบเต็มเวลาที่ LesserEvil พร้อมกับจ้าง Andrew Strife ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมารับตำแหน่ง COO และ CFO
Coristine เข้ามาเปลี่ยนแปลงบางอย่าง โดยมองว่าการสร้างแบรนด์แบบเก่าไม่ดึงดูดลูกค้า และบริษัทต้องจ่ายเงินประมาณ 20% ของรายได้จากการขายแต่ละครั้งให้กับผู้ผลิต และจัดส่งขนม ทุกอย่างดูกระท่อนกระแท่น และต้องการได้รับการคิดใหม่ทั้งหมด
นักโภชนาการส่วนตัวของ Coristine เสนอแนะให้ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ใช้น้ำมันมะพร้าวในการคั่วป๊อปคอร์น รวมถึง Coristine มีความชื่นชอบเนย จึงทำผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาในปี 2014 ที่มีชื่อเรียกว่า Buddha Bowl โดยสามารถสร้างรายได้ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีนั้น
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สต๊อกสินค้า มีการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มสายการผลิตให้มากขึ้น และอัปเดตบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์ โดยการรีแบรนด์ และเพิ่มผลิตภัณฑ์ ช่วยผลักดันให้ธุรกิจทำกำไร และสามารถจ่ายเงินเดือนที่มาจากการทำงานให้กับพนักงาน
อีกทั้ง Coristine มีความรู้สึกว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่การทำงาน โดยเป้าหมายของ LesserEvil คือสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยส่วนผสมที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ และน้ำมันอะโวคาโด
ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรก 2024 บริษัทมียอดขายสุทธิ 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีการลงทุนเปิดโรงงานแห่งใหม่ใน New Milford ซึ่งห่างจากโรงงาน Danbury ประมาณ 15 ไมล์
ที่มา: lesserevil , cnbc
เรื่องที่เกี่ยวข้อง