บริษัท Perplexity AI ได้สร้างความฮือฮาในวงการธุรกิจด้วยการยื่นข้อเสนอการควบรวมกิจการกับ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอปพลิเคชัน TikTok โดยข้อเสนอที่ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว CNBC ระบุถึงการจัดตั้งองค์กรใหม่ที่มีชื่อชั่วคราวว่า “NewCo” โดยองค์กรนี้จะรวม TikTok US และทรัพยากรจาก Perplexity AI เข้าด้วยกัน พร้อมกับเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีสิทธิ์ถือหุ้นในสัดส่วนถึง 50% หลังจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชน (IPO) ในอนาคต
รายละเอียดการควบรวมและโครงสร้างองค์กรใหม่
ข้อเสนอของ Perplexity AI วางแผนให้ ByteDance โอนย้าย TikTok US ไปยัง NewCo โดยไม่รวมอัลกอริทึมการแนะนำเนื้อหาหลัก ซึ่งเป็นทรัพย์สินสำคัญของ ByteDance เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน นักลงทุนปัจจุบันของ ByteDance จะได้รับหุ้นใน NewCo เป็นการแลกเปลี่ยน เช่นเดียวกับนักลงทุนของ Perplexity AI ที่จะได้รับส่วนแบ่งจากองค์กรใหม่นี้
Perplexity AI ยังวางแผนให้มีแหล่งเงินทุนใหม่จาก “ผู้ให้ทุนรายที่สาม” ซึ่งจะช่วยจัดหาทุนสำหรับการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นของ ByteDance และเสริมสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้กับ NewCo ด้วยความคาดหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยเปิดโอกาสการเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
ประวัติและศักยภาพของ Perplexity AI
Perplexity AI เปิดตัวในปี 2024 โดยเริ่มต้นด้วยมูลค่าตลาดประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปิดปีด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความนิยมของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการแข่งขันในตลาดค้นหาข้อมูลที่มีคู่แข่งสำคัญอย่าง Google และ OpenAI
การควบรวมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่อาจช่วยให้ ByteDance รักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน TikTok US ผ่านโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยไม่ต้องขายกิจการทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
การเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ ถือหุ้น
ข้อเสนอที่โดดเด่นที่สุดคือการให้รัฐบาลสหรัฐฯ ถือหุ้น 50% ในองค์กรใหม่หลังการเสนอขายหุ้น IPO เบื้องต้นมีการประเมินว่ามูลค่าของ NewCo อาจแตะ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยราคาประเมินขั้นต่ำอยู่ที่ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักลงทุนที่เกี่ยวข้อง
ผลกระทบต่อวงการธุรกิจและการเมือง
ข้อเสนอนี้ได้รับความสนใจจากหลายฝ่าย ทั้งบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Microsoft และ Oracle รวมถึงบุคคลสำคัญอย่างอีลอน มัสก์ เจ้าของแพลตฟอร์ม X ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่แข่งสำคัญของ TikTok ในด้านโซเชียลมีเดีย
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ TikTok US ได้แสดงการสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหานี้ โดยระบุว่าการให้ผู้ถือหุ้นชาวอเมริกันซื้อกิจการและเปิดโอกาสให้รัฐบาลถือหุ้นเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างความมั่นคงและการพัฒนาเศรษฐกิจ
โชว จื่อชิว (Shou Zi Chew) ซีอีโอของ TikTok ก็ได้แสดงความขอบคุณต่อประธานาธิบดีทรัมป์ที่เปิดทางให้ TikTok สามารถดำเนินงานในสหรัฐฯ ต่อไป โดยมองว่าข้อตกลงนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายตลาดและลดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ
อนาคตของธุรกิจเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย
หากข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีในระดับโลก การสร้างองค์กรที่มีการถือหุ้นร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและรัฐบาลจะเป็นโมเดลใหม่ที่น่าสนใจและอาจกลายเป็นแนวทางสำหรับการแก้ปัญหาในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและความโปร่งใสในธุรกิจเทคโนโลยี
ความเคลื่อนไหวนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยต้องติดตามกันต่อไปในอีก 30 วันข้างหน้า ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนและรัฐบาลต้องพิจารณาข้อตกลงนี้อย่างรอบคอบ
Post Views: 124