ตลาดโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมอาหารโตแรง 3.2% กลุ่มเครื่องดื่มยังโตกว่ากลุ่มอาหารอื่น
คนไทยกว่า 7.2 ล้านคน ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ และกว่า 50% กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ผู้บริโภคคุ้นเคยกับโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมอาหารใหม่มากขึ้น หลังจากทำตลาดในไทยมากกว่า 5 ปี ปัจจุบันผู้บริโภคกว่า 7.2 ล้านคน ไม่บริโภคเนื้อสัตว์ และกว่า 50% ของกลุ่มดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ส่งผลให้คาดว่ายังเป็นพื้นที่ศักยภาพในการขยายตลาด เนื่องจากมีกำลังซื้อสูงกว่าภูมิภาคอื่น
ปี 2024 คาดมูลค่าตลาดโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมอาหารใหม่อยู่ที่ 9,700 ล้านบาท โต 3.2% จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และจำนวนผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการตอบรับโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมอาหารใหม่ที่มีมากขึ้น ทำให้จำนวนผลิตภัณฑ์และช่องทางการขายเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคจึงเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น หรือ Flexitarian และกลุ่มวีแกน
โปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าตลาดโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมอาหารใหม่ปี 2024 จะอยู่ที่ 9,700 ล้านบาท ขยายตัว 3.2% โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจที่ผู้ประกอบการจะเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 30% (ตลอดช่วงกินเจ 10 วัน) และคาดว่าน่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้ราว 30% เทียบกับช่วงปกติ
กลุ่มเครื่องดื่มแม้มีส่วนแบ่งตลาดเพียง 39% แต่ยังโตสูงกว่ากลุ่มอาหาร จากราคาต่อหน่วยที่เข้าถึงง่ายและมีสินค้าหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ปี 2024 ตลาดโปรตีนทางเลือกจากนวัตกรรมอาหารใหม่กลุ่มเครื่องดื่มแม้มีสัดส่วนเพียง 39% แต่มีแนวโน้มเติบโต 6.1% จากราคาต่อหน่วยที่เข้าถึงง่ายและความนิยมในการประยุกต์เป็นส่วนผสมของเมนูเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ รวมถึงผู้แพ้นมวัว นมถั่วเหลือง เป็นต้น
ขณะที่กลุ่มอาหารในปีนี้คาดว่าโตเพียง 1.4% แม้ผู้ประกอบการจะพยายามทำให้ระดับราคาต่อหน่วยไม่แตกต่างมากนักจากอาหารทั่วไป เช่น อาหารสำเร็จรูปที่ขายในร้านสะดวกซื้อ แต่มีหลายรายการที่ราคาต่อหน่วยยังสูง เช่น กลุ่มวัตถุดิบ (เนื้อบดจากพืช) อาหารพร้อมทาน (หมูปิ้งจากพืช) จึงทำให้ผู้บริโภคอาจไม่ได้เลือกซื้อในความถี่ที่มาก
ธุรกิจยังมีความเสี่ยงจากการแข่งขันรุนแรงทั้งจากสินค้าที่ผลิตในประเทศและสินค้านำเข้า รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน ดังนี้
- การแข่งขันรุนแรงจากกลุ่มอาหารโปรตีนทางเลือกด้วยกันเอง ทั้งที่ผลิตได้ในประเทศและนำเข้าที่เข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น อาทิ สิงคโปร์ จีน สหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่ม ส่งผลให้มีสินค้าในตลาดมากกว่า 100 แบรนด์ และกลุ่มอาหารทั่วไปที่มีหลากหลาย ทั้งระดับราคา ประเภทอาหารและแหล่งเลือกซื้อ ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถปรับพฤติกรรมการบริโภคไปตามกำลังซื้อมีอยู่ในแต่ละช่วงเวลา โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง
- ต้นทุนวัตถุดิบที่ยังผันผวนและมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้น โดยต้นทุนวัตถุดิบมีสัดส่วนราว 40-50% ของต้นทุนการผลิตทั้งหมด ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนอาจกระทบกับผลผลิตและราคา โดยเฉพาะถั่วเหลืองที่ส่วนใหญ่ยังพึ่งพาการนำเข้าเกือบทั้งหมด รวมถึงวัตถุดิบที่ผลิตได้ในประเทศยังไม่เพียงพอ อาทิ ถั่วเขียว เห็ดแครง
ข้อมูลจาก: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย