ทรัมป์ เตือนขึ้นภาษีนำเข้ากลุ่ม BRICS หากเดินหน้าสร้างสกุลเงินใหม่
เมื่อเร็วๆนี้ โดนัล ทรัมป์ และทีมเศรษฐกิจได้หารือแนวทางในการลงโทษพันธมิตรและศัตรูที่พยายาม มีส่วนร่วมในการค้าทวิภาคีที่มุ่งจะใช้เงินตราสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ โดยทรัมป์ได้ย้ำมาตลอดว่า ต้องการให้ดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศ
ซึ่งขณะนี้ กลุ่ม BRICS ประกอบด้วย 9 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้ อิหร่าน UAE เอธิโอเปีย และ อียิปต์ (4 ประเทศหลัง ได้เข้าร่วมเมื่อปี 2567) โดยเมื่อครั้งการประชุมสุดยอดผู้นำ BRICS เมื่อปี 2566 ได้มีการหารือประเด็นการใช้เงินตราสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ในที่ประชุมสุดยอดผู้นำ BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้สนับสนุนการลดบทบาทของดอลลาร์สหรัฐ
ภายหลังจากคำเตือนของทรัมป์ต่อกลุ่ม BRICS กระทรวงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและความร่วมมือ ประเทศแอฟริกาใต้ ระบุว่า ขณะนี้ ยังไม่มีแผนการจัดตั้งเงินตราสกุล BRICS มีเพียงการหารือที่มุ่งเน้นการใช้เงินสกุลท้องถิ่นของแต่ละประเทศสำหรับการค้าระหว่างประเทศ โดยประเทศแอฟริกาใต้สนับสนุนการใช้สกุลเงินประจำชาติของแต่ละประเทศสำหรับการค้าและธุรกรรมระหว่างประเทศ เพื่อลดผลกระทบของความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดังนั้น การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธนาคารเครือข่ายและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชำระบัญชีในสกุลเงินของแต่ละประเทศสามารถส่งเสริมเป้าหมายนี้
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้พุ่งเป้าขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน แม็กซิโก และแคนาดา แต่ล่าสุดทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้ากลุ่ม BRICS 100% หากกลุ่ม BRICS เดินหน้าสร้างสกุลเงินใหม่หรือสนับสนุนเงินสกุลใหม่มาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐ การขู่ของทรัมป์ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า หาก BRICS ทำอะไรที่ขัดแย้งกับผลประโยชน์สหรัฐฯ ทรัมป์จะวางแผนตอบโต้กลับอย่างแน่นอน
โดยขณะนี้ หลายประเทศต่างกำลังรอดูท่าทีว่า ภายหลังที่โดนัล ทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 ทิศทางนโยบายต่างๆ ของสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไร
ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย
คลิกอ่าน: ผลกระทบเศรษฐกิจไทย ปี 2025 ภายใต้นโยบายทรัมป์