ตามรายงาน “Global Rich List 2024” เกี่ยวกับเมืองที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในเอเชีย พบว่า “มุมไบ” ของอินเดียก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ครั้งแรกด้วยจำนวน 92 คน แซงหน้า “ปักกิ่ง” ของจีนที่มีจำนวน 91 คน

จากรายงานที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจไม่ใช่น้อยที่ “มุมไบ” กลายเป็นเมืองหลวงของเหล่ามหาเศรษฐี แล้วเมืองแห่งนี้มีความเป็นมา หรือความสำคัญอย่างไร เพราะอะไรถึงยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ เรามาหาคำตอบกัน

“มุมไบ” เป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงิน และการสร้างความมั่งคั่งของอินเดียมาโดยตลอด เนื่องจากในอดีตธุรกิจครอบครัวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่ อีกทั้ง ยังเป็นเมืองยังเป็นตัวแรก ๆ สำหรับใครก็ตามที่ต้องการก่อตั้งธุรกิจ และขยายธุรกิจไปทั่วอินเดีย

ที่สำคัญไปมากกว่านั้น คือ “มุมไบ” เป็นเมืองท่าศูนย์กลางทางการค้า อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีความพร้อม เอื้ออำนวยกับการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก แต่จำนวนมหาเศรษฐีที่เพิ่มขึ้นของ “มุมไบ” ก็ไม่สามารถตัดขาดภาพรวมของอินเดียได้ เพราะโครงสร้างตลาดของประเทศกำลังเปลี่ยนไปสู่การมีผู้ขายน้อยราย โดยมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่ครองทุกภาคส่วนที่ทำกำไรหลัก ๆ

เปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีอเมริกันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Mark Zuckerberg, Jeff Bezos ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำตั้งแต่เริ่มแรกด้วยความคิดสร้างสรรค์ แต่ไม่ใช่กับอินเดีย เนื่องจากการสนับสนุนจากนโยบาย และการสร้างแรงจูงใจสร้างความได้เปรียบกับอุตสาหกรรมบางกลุ่มเท่านั้น

ตามรายงานของ Huran พบว่าอุตสาหกรรมที่โดดเด่นเมื่อพูดถึงมหาเศรษฐี ได้แก่ ยา, รถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ และเคมีภัณฑ์ โดยคนรวยที่สุดของอินเดีย คือ Mukesh Ambani ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย

นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียมีเป้าหมายสำคัญ นั่นคือภายในปี 2030 จะทำให้เศรษฐกิจอินเดียมีมูลค่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่สหรัฐฯ กับจีน เท่านั้น ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลอินเดียยังอยากลบภาพจำเกี่ยวกับประชากรที่ผู้คนมักมองในมุมลบ มีแต่ความยากจน ขาดแคลน ไม่มีจะกิน ด้วยแผนพัฒนาคน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนยากจน, ผู้หญิง, เยาวชน และเกษตรกร เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียมกันของประชากร
หากมองเมืองที่จะมีศักยภาพไล่ตาม “มุมไบ” ได้ทัน คงหนีไม่พ้นเมืองหลวงอย่าง “นิวเดลี”