สรุปนโยบาย EV ใหม่ ภายใต้ทรัมป์ 2.0 กระทบตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกหรือไม่

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทีมงานเปลี่ยนผ่านของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 ได้เสนอแผนยุทธศาสตร์ใหม่สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในสหรัฐอเมริกา โดยเนื้อหาจากเอกสารที่ได้รับมาจากแหล่งข่าวซึ่งยังไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากนโยบายของรัฐบาลไบเดน โดยสรุปใจความสำคัญได้ดังนี้

1. ตัดงบอุดหนุนเครดิตภาษีสำหรับรถ EV
ยกเลิกการให้เครดิตภาษีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐแก่ผู้ซื้อรถ EV พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการกีดกันการนำเข้ารถยนต์ ชิ้นส่วน อุปกรณ์ และวัตถุดิบจากจีน

2. สนับสนุนการผลิตภายในประเทศ
แผนนี้กำหนดให้มีการเก็บภาษีนำเข้าแบตเตอรี่จากทั่วโลก ยกเว้นในกรณีที่มีข้อตกลงพิเศษระหว่างประเทศ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตภายในสหรัฐฯ

3. เปลี่ยนงบประมาณโครงสร้างพื้นฐาน
เปลี่ยนแปลงการใช้งบประมาณ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่รัฐบาลไบเดนจัดสรรไว้สำหรับสถานีชาร์จไฟฟ้า มาใช้พัฒนาแร่ธาตุสำหรับแบตเตอรี่และโครงสร้างพื้นฐานทางยุทธศาสตร์ โดยมีการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

4. เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าสำคัญ
ใช้มาตรการภาษี 232 เพื่อขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลัก เช่น แบตเตอรี่ แร่ลิเทียม แร่แกรไฟต์ และชิ้นส่วนมอเตอร์ โดยมุ่งเน้นการจำกัดการพึ่งพาจีน

5. ผ่อนปรนข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
ลดการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อเร่งการดำเนินโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการผลิตแบตเตอรี่ รวมถึงส่งเสริมการรีไซเคิลแบตเตอรี่

6. ปรับมาตรฐานการปล่อยไอเสีย
ย้อนกลับไปใช้มาตรฐานการปล่อยไอเสียในปี 2019 ซึ่งมีระดับการปล่อยที่สูงกว่ากฎปัจจุบัน รวมถึงยกเลิกอำนาจของรัฐแคลิฟอร์เนียในการกำหนดมาตรการที่เข้มงวด

7. ส่งเสริมการส่งออก
สนับสนุนการส่งออกแบตเตอรี่และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไปยังประเทศพันธมิตร พร้อมใช้ภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือในการเจรจาเปิดตลาดส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ

8. ยุติโครงการรถ EV สำหรับหน่วยงานรัฐและการทหาร
ยกเลิกนโยบายที่บังคับให้หน่วยงานรัฐบาลกลางใช้รถ EV ภายในปี 2027 รวมถึงยุติโครงการรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานทางทหาร

สำหรับผลกระทบต่อตลาดรถ EV การตัดงบอุดหนุนเครดิตภาษี 7,500 ดอลลาร์สหรัฐอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดรถ EV โดยเฉพาะบริษัทรถยนต์อย่าง General Motors, Hyundai และ Tesla ซึ่งล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่ในตลาด นอกจากนี้ นโยบายสนับสนุนพลังงานฟอสซิลของรัฐบาลทรัมป์อาจผลักดันให้บริษัทอย่าง Volvo, Ford และ Toyota ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ โดยหลายฝ่ายคาดว่า หากรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ดำเนินนโยบายดังกล่าว สหรัฐฯ อาจถอนตัวจาก “ความตกลงปารีส” อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการลดแรงผลักดันในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดทั่วโลก