สูตรลับความสำเร็จ MR.D.I.Y. ทำอย่างไรให้แบรนด์ติดตลาด เป็นมากกว่าร้านขายสินค้าราคาถูก

ธุรกิจที่ดีคือธุรกิจที่แก้ปัญหาให้กับลูกค้า รู้ว่าอะไรคือเรื่องชวนปวดหัวของพวกเขาที่รอวันแก้ไข

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะต้องมีที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด หอพัก สิ่งที่เหมือนกันของสถานที่เหล่านี้ต้องมีคืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องใช้ภายในครัวเรือน, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และผู้บริโภคย่อมมองหาร้านค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องนี้ให้กับพวกเขา

MR.D.I.Y. ร้านจำหน่ายสินค้าจิปาถะ สินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแห่งยุคสัญชาติมาเลเซีย ที่โมเดลธุรกิจถูกออกแบบมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ เข้ามาตีตลาดเมืองไทย เปิดให้บริการสาขาแรกเมื่อปี พ.ศ. 2559 (ปี 2016) ที่ ศูนย์การค้าซีคอนบางแค กรุงเทพฯ มาวันนี้ธุรกิจภายใต้บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เตรียม IPO ในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 981 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 16.31% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระทั้งหมดของบริษัท เพื่อพัฒนาขยายธุรกิจ และคืนหนี้เงินกู้

เรื่องราวของ MR.D.I.Y. เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าสนใจกับการวางแผน กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด จนทำให้แบรนด์เติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายงานวิจัยการตลาดของ Frost&Sullivan ชี้ให้เห็นว่า MR.D.I.Y. คือผู้นำตลาดที่มีความโดดเด่นในธุรกิจสินค้าอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 7.4% นอกจากนี้ ยังเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกสินค้าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านในประเทศไทย ครองส่วนแบ่งอยู่ที่ 32.4%

เราสามารถมองกลยุทธ์ของ MR.D.I.Y. ออกเป็นประเด็นดังต่อไปนี้

สร้างแบรนด์ให้เป็น Top of Mind

หากสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคนึกถึงเป็นชื่อแรก ๆ ธุรกิจก็จะมีโอกาสเดินหน้าเติบโตในอนาคตแบบยั่งยืน โดย MR.D.I.Y. สร้างการรับรู้ในตัวแบรนด์ผ่านสินค้าที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายให้เลือกตามหมวดหมู่ต่าง ๆ ได้แก่ ฮาร์ดแวร์ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ประดับยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ของเล่นและของขวัญ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องประดับและเครื่องสำอาง สินค้าเหล่านี้ขายในราคาที่จับต้องได้ เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูง

 

ร้าน MR.D.I.Y

 

เน้นขยายสาขา

การที่มีสาขาที่ครอบคลุม ทั่วถึงในพื้นที่ ทำเลที่สำคัญ ย่อมดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ และนี่จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของ MR.D.I.Y. ดูได้จากสถิติย้อนกลับไปในปี 2017 ที่มี 50 สาขา แต่ในปี 2023 มีสาขา 700 สาขา ใน 72 จังหวัด โดยแบรนด์ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ เพราะในปี 2025 จะต้องมีสาขาให้ครบ 1,000 สาขา ใน 77 จังหวัด ซึ่งมีข้อมูลสถิติที่น่าสนใจว่า MR.D.I.Y. ในไทยมีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 2 จากที่เปิดทั้งหมด เป็นรองแค่มาเลเซียเท่านั้น

อีกทั้ง สาขาในแต่ละพื้นที่ของ MR.D.I.Y. ก็จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไปตามทำเลที่ตั้งให้มีความเหมาะสม โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.แบบสแตนอโลน ขนาด 300 ตร.ม. ขึ้นไป ตั้งอยู่นอกศูนย์การค้า 2.แบบมอลล์ ขนาด 300 ตร.ม. ขึ้นไปจะอยู่ในศูนย์การค้า-ห้างสรรพสินค้า และแบบเอ็กซ์เพรส ขนาดไม่เกิน 300 ตร.ม.

 

ลูกค้าเหมือนเล่นเกมล่าสมบัติ

ด้วยความที่ภายในร้าน MR.D.I.Y. มีสินค้ามากถึง 18,000 รายการ จัดวางอยู่บนเชลฟ์ตามหมวดหมู่ต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อลูกค้าเดินเข้ามาในร้านก็เหมือนกับการเล่นเกมที่สินค้าเปรียบเสมือนสมบัติที่ต้องตามหา เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ผ่านการเลือก การเปรียบเทียบว่าชอบแบบไหน

 

สินค้าภายในร้านค้า MR.D.I.Y

 

จะเห็นได้ว่า MR.D.I.Y. จับตลาด รู้พฤติกรรมของผู้บริโภคว่ามีความต้องการอะไร และแบรนด์สามารถแก้ปัญหาได้ถูกจุด จนเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ในที่สุด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง