เจาะตลาดอีคอมเมิร์ซ UAE คาดพุ่งสู่ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2029

ตลาดอีคอมเมิร์ซในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากกว่า 90% และผู้บริโภคมีรายได้สูง ทำให้มีศักยภาพในการจับจ่าย โดยคาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจาก 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2024 สู่ 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2029 จากข้อมูลที่นำเสนอในฟอรั่ม WORLDEF Dubai 2024 ซึ่งจัดโดย Dubai CommerCity สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจไปยัง ตลาดอีคอมเมิร์ซ UAE

สินค้าขายดีในตลาดอีคอมเมิร์ซ UAE

  • เสื้อผ้าและเครื่องประดับ เป็นหมวดหมู่สินค้าที่ขายดีที่สุดในตลาดอีคอมเมิร์ซของ UAE โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 และคาดว่าจะเติบโตถึง 12.6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่าง สมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เป็นที่ต้องการอย่างมากใน UAE โดยมีมูลค่าตลาด 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 และคาดว่าจะเติบโตถึง 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025
  • ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ผู้บริโภคใน UAE ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก ทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เครื่องสำอาง และสุขภาพสูงขึ้น โดยคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025
  • อาหารและเครื่องดื่ม การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอนที่มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
  • เครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ผู้บริโภคใน UAE สนใจสินค้าที่ช่วยปรับปรุงบ้านและที่อยู่อาศัย ทำให้สินค้าประเภทนี้มีความต้องการสูง

Dubai CommerCity สนามแห่งใหม่ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
Dubai CommerCity ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ ด้วยสถานะเป็นเขตปลอดอากร (Free Zone) แห่งแรกของภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา เขตนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการต่างชาติเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น ด้วยการสนับสนุนตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นไปจนถึงการดำเนินงานเต็มรูปแบบ

การลงทุนด้านโลจิสติกส์ เพิ่มขีดความสามารถในอนาคต
Dnata Logistics หนึ่งในผู้นำด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของดูไบ ได้ลงทุนสร้างคลังสินค้าขนาดใหญ่ 57,000 ตร.ม. ใกล้สนามบิน Al Maktoum International Airport ด้วยงบประมาณ 27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซในอนาคต การพัฒนาเหล่านี้ทำให้ดูไบกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระดับโลกอย่างแท้จริง

E-Trader Licence เปิดโอกาสสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและฟรีแลนซ์ รัฐบาลดูไบได้ออกใบอนุญาต e-trader licence ซึ่งมีค่าธรรมเนียมเริ่มต้นเพียง 1,070 เดอร์แฮม (ประมาณ 290 เหรียญสหรัฐฯ) ใบอนุญาตนี้ช่วยลดอุปสรรคในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์และช่วยเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการในภูมิภาค โดยข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า การจดทะเบียน e-trader licence เพิ่มขึ้นถึง 142% ระหว่างปี 2022-2023

สินค้าไทยในตลาด UAE โอกาสที่ต้องคว้าไว้
ด้วยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Letstango.com ผลักดันสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดออนไลน์ในยูเออีผ่านโครงการ TOPTHAI ซึ่งขยายการเข้าถึงสินค้าไทยสู่กลุ่มผู้บริโภคในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีแผนสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ใช้ช่องทางการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาดโลก

โอกาสสำหรับธุรกิจในยูเออี

  • SME ควรใช้ Dubai CommerCity และ e-trader licence เพื่อเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายและต้นทุนต่ำ
  • ผู้ค้าปลีก สามารถใช้ดูไบเป็นฐานขยายสู่ตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา
  • ธุรกิจเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ รองรับความต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น คลังสินค้าอัจฉริยะและการชำระเงินออนไลน์

ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งและการสนับสนุนจากภาครัฐ ยูเออีกำลังก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซระดับโลก ธุรกิจที่ต้องการขยายสู่ภูมิภาคนี้ควรรีบคว้าโอกาสและวางแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน