เจาะลึกอิทธิพลของมือถือ ไทยครองแชมป์ใช้งาน 5 ชั่วโมงต่อวัน สูงสุดในอาเซียน

เทเลนอร์ เอเชีย บริษัทโทรคมนาคมชั้นนำระดับโลกจากนอร์เวย์ ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมของ DTAC ได้เผยแพร่รายงานล่าสุด “Digital Lives Decoded 2024 ของประเทศไทย” ซึ่งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอิทธิพลของเทคโนโลยีมือถือที่มีต่อวิถีชีวิตคนไทยในช่วงปีที่ผ่านมา

คนไทยใช้งานมือถือมากที่สุดในอาเซียน เฉลี่ย 5 ชั่วโมงต่อวัน
มานิช่า โดกรา รองประธานอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและความยั่งยืนของเทเลนอร์ เอเชีย เปิดเผยว่าประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยใช้งานออนไลน์เกือบ 5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 4 ชั่วโมง 35 นาที โดย 99% ของการใช้งานนั้นผ่านมือถือหรือสมาร์ทโฟน ในขณะที่ประเทศอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ยังคงใช้อุปกรณ์อื่น เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและแล็ปท็อปควบคู่กันไป

การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความแตกต่างระหว่างกลุ่มอายุ โดย Gen Z ใช้งานเฉลี่ย 5 ชั่วโมง 42 นาทีต่อวัน Millennials 5 ชั่วโมง 13 นาที และ Gen X 4 ชั่วโมง 28 นาที แม้แต่กลุ่ม Baby Boomer อายุ 61-64 ปียังใช้งานสูงถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคเช่นกัน

นอกจากนี้ โทรศัพท์มือถือในประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์สื่อสาร แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนผ่านสู่ชีวิตดิจิทัล โดย 70% ของผู้ใช้งานเชื่อมต่อโลกโซเชียล 64% ใช้เพื่อความบันเทิง และกว่า 60% ใช้เพื่อธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงการหาข้อมูลเพื่อการศึกษาและการทำงาน

ความย้อนแย้งของความเป็นส่วนตัว คนไทยยอมแลกความปลอดภัยเพื่อความสะดวกสบาย
รายงานยังเผยถึง “ภาวะความย้อนแย้งในด้านความเป็นส่วนตัว” หรือ “Privacy Paradox” ที่ผู้ใช้งานให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายออนไลน์มากกว่าความเป็นส่วนตัว โดยแม้ว่าผู้ใช้งานกว่า 50% จะกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามไซเบอร์ เช่น การหลอกลวงออนไลน์หรือการขโมยข้อมูลส่วนตัว แต่ความตระหนักถึงมาตรการป้องกันกลับยังไม่สูงมากนัก

ตัวอย่างเช่น 75% ของคนไทยกังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหลหรือถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 68% อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จำนวนมากยังคงไว้วางใจผู้ให้บริการและเว็บไซต์ที่ใช้งาน โดย 38% เชื่อมั่นว่าเว็บไซต์สามารถปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้ (เทียบกับ 21% ในสิงคโปร์) และ 60% ยอมให้บริษัทเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเพื่อแลกกับข้อเสนอหรือบริการที่ปรับให้เหมาะสมกับตนเอง

แม้ว่าผู้ใช้งานจะตระหนักถึงความเสี่ยง แต่การใช้เครื่องมือป้องกัน เช่น VPN หรือตัวบล็อกโฆษณายังคงต่ำ เนื่องจากผู้ใช้งานยังคำนึงถึงความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและบริการส่วนบุคคลมากกว่า

มาตรการและความร่วมมือเพื่อความปลอดภัยทางไซเบอร์
เทเลนอร์ เอเชีย ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมในทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินการหลายมาตรการเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การตรวจจับและบล็อก Scam Calls กว่า 250 ล้านสายในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยออนไลน์ รวมถึงการให้คำแนะนำผู้ใช้งานทุกระดับ