“อินเทอร์เน็ต” ไม่ใช่แค่ความสะดวก ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ “เครื่องยนต์เศรษฐกิจชุมชน”
เอ็มมันนี่ บรอดแบนด์ จำกัด จึงเดินหน้าปักหมุดโครงข่ายในหลายจังหวัด อัพโอกาสให้เกษตรกรขายออนไลน์ รายได้เพิ่ม เด็กในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงความรู้ได้ทัดเทียม ชุมชนสื่อสารได้ทั่วถึง
ธุรกิจเติบโตควบคู่การสร้างความเจริญให้สังคม ให้คนตัวเล็ก จึงเป็นที่มาของการได้รับรางวัล “เอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ ประจำปี 2568”

ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเข้าถึงโครงข่ายการสื่อสาร อันเป็นดัชนีสำคัญที่ส่งเสริมการพัฒนาของชุมชน บริษัทเอ็มมันนี่ บรอดแบนด์ จำกัด ผู้ให้บริการติดตั้งและซ่อมบำรุงอินเทอร์เน็ตบ้านและองค์กร (AIS Fiber) จึงก่อตั้งขึ้นในปี 2559 และขณะนี้บริษัทเดินหน้าให้บริการใน 4 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู และนครสวรรค์ ทั้งยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดูแลระบบสื่อสารครอบคลุม 20 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“วัชราภรณ์ พลพงษ์” ผู้ก่อตั้งบริษัทเอ็มมันนี่ บรอดแบนด์ จำกัด ระบุว่า ธุรกิจติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน ถือเป็น “ธุรกิจที่เอื้อชุมชน” โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกในการสร้างอาชีพ รายได้, การสื่อสารระหว่างกันในพื้นที่ห่างไกล และเพิ่มโอกาสทางการศึกษา
“ทุกอาชีพต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการดำรงชีวิต ตอนนี้เกษตรกร คนค้าขายในหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ขายสินค้าโอท็อป ใช้อินเทอร์เน็ตประชาสัมพันธ์ ขายสินค้า ไลฟ์สด ทำให้เศรษฐกิจในชุมชนดีขึ้น คนมีรายได้มากขึ้น
เมื่อก่อนต้องขับรถไปขายที่ตลาดเท่านั้น ตอนนี้ไม่ต้องเดินทางแล้ว
หรือกรณีของลูกหลานไปทำงานต่างประเทศ พ่อแม่ตายายก็สามารถสื่อสารกับลูกหลานได้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แม้แต่การวิดีโอคอลล์สื่อสารกับหมอเพื่อขอคำแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้าถึงชุมชนกว้างขึ้นและลึกขึ้น เช่น บนดอย ทำให้เด็กมีโอกาสเข้าถึงการศึกษา”
สำหรับความต้องการติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด วัชราภรณ์บอกว่า ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยในปัจจุบัน (ปี 2568) ประเทศไทย มีสัดส่วนการใช้อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวันเพียง 40% จึงยังต้องการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อผลักดันความเจริญอีกมาก

ที่ผ่านมาธุรกิจจึงเติบโตต่อเนื่องปีละ 30% และกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจที่มาพร้อมกับการมีส่วนสร้างความเจริญให้ชุมชน ผ่านการเข้าไปประชาสัมพันธ์การติดตั้งอินเทอร์เน็ตภายในชุมชน พบปะผู้นำชุมชน อาทิ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตามมาด้วยการเข้าไปดูแลชุมชนในด้านต่างๆ เช่น ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี ซ่อมฟรี ออกค่าใช้จ่ายให้ 1 ปี กับโรงเรียนขนาดเล็กที่ยังขาดปัจจัยดังกล่าว, ติดตั้งอินเทอร์เน็ตฟรีที่ศาลาประจำหมู่บ้าน, การมอบอุปกรณ์สำนักงาน มอบบริการอินเทอร์เน็ตฟรี 1 ปี กับสถานีตำรวจเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน, การมอบเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) การมอบชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ทุนการศึกษา เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การดําเนินธุรกิจก็เป็นไปตามแนวนโยบาย BCG (Bio – Circular- Green Economy) ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัสดุเหลือใช้ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การมอบบันไดไม้ไผ่สำหรับติดตั้งอินเทอร์เน็ตทีใช้แล้วให้กับย่านชุมชน หรือโรงเรียนอาชีวะ เพื่อนำไปใช้งานต่อ, การมอบยางรถยนต์ที่ใช้แล้วเพื่อให้ชุมชนนำไปสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างอาชีพ เช่น ทำเป็นถังขยะ ทำแปลงปลูกผัก และการนำสายโทรศัพท์ที่ไม่ใช้แล้วมาเป็นอุปกรณ์การมัดสายไฟ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังรับพนักงานประจำซึ่งเป็นคนในท้องถิ่นทั้งหมด เพื่อสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ยิ่งธุรกิจขยายตัวมากขึ้น ย่อมหมายถึงการเพิ่มจำนวนพนักงานในพื้นที่มากขึ้นเท่านั้น และให้สวัสดิการพนักงานตามมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังได้ลงนามเอ็มโอยูกับหลายสถาบันการศึกษาในสายอาชีพเพื่อรับนักศึกษามาฝึกงานที่เป็นเวลา 3-6 เดือน สร้างประสบการณ์ รายได้ สร้างอาชีพที่มั่นคงในอนาคต

ในส่วนของการดูแลลูกค้า บริษัทจะคัดกรองพนักงานโดยตรวจสอบสารเสพติดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในบริการ
“เราต้องเข้าไปติดตั้งอินเทอร์เน็ตในบ้าน ต้องสร้างความมั่นใจกับลูกค้าว่า พนักงานเราทุกคนปลอดสารเสพติด มีห้องแล็บมาตรฐานมาตรวจและออกใบรับรอง เราประกาศนโยบายนี้ค่อนข้างชัดเจน เป็นโครงการสีขาว ที่ได้รับรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี” วัชราภรณ์ ระบุ
เส้นทางการเติบโตของ เอ็มมันนี่ บรอดแบนด์ อาจเริ่มจากธุรกิจติดตั้งอินเทอร์เน็ต แต่สิ่งที่งอกงามขึ้นพร้อมกับสายเคเบิลทุกเส้น คือ “โอกาส” ของผู้คนในชุมชน รายได้ที่เพิ่มขึ้น อาชีพที่ขยาย พนักงานท้องถิ่นที่มีงานมั่นคง เด็กที่เข้าถึงการเรียนรู้ และชุมชนที่ห่างไกลเชื่อมถึงสังคมโลกได้ทัดเทียม
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่องค์กรแห่งนี้จะได้รับรางวัล “เอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ 2568” รางวัลที่สะท้อนทั้งคุณภาพของงาน และคุณค่าที่ส่งต่อให้สังคม
Post Views: 38