Startup กับ SME เหมือนหรือต่างกันที่ตรงไหน


หลังจากที่เราได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า Startup (สตาร์ทอัพ) คืออะไร ตอนนี้เรามาต่อกันในเรื่องที่หลายคนมีความสงสัย และมีความเข้าใจที่ไม่ชัดเจนในเรื่องของ SME กับ Startup ว่าแตกต่างกันอย่างไร บ้างก็บอกว่าเหมือนๆ กันแค่มีเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาใช้ บ้างก็บอกว่าต่างกันตรงที่วิธีหาเงินมาทำธุรกิจ ซึ่งทั้งสองเรื่องที่กล่าวไปนั้นไม่มีผิดไม่มีถูก เพราะการทำธุรกิจทั้ง 2 แบบมีทั้งข้อที่เหมือนและข้อที่แตกต่างกันอยู่ส่วนจะเป็นเรื่องใดบ้างนั้นตามมาดูกันเลย

ความเหมือนกันของเอสเอ็มอีกับสตาร์ทอัพ
รูปแบบการทำธุรกิจทั้ง 2 แบบนี้มีความเหมือนกันอยู่ตรงที่ต่างก็เป็น “ผู้ประกอบการ” เหมือนกัน ทำให้คนที่อยากทำธุรกิจไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนต่างก็ต้องมีจิตวิญญาณของผู้ประกอบการหรือ Entrepreneur เป็นหลัก นั่นคือต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งอยากประสบความสำเร็จ มีความคิดสร้างสรรค์สามารถคิดหรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อทำการแข็งขันในตลาดได้ หรืออาจจะคิดสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อสร้างตลาดใหม่ นั่นคือสิ่งที่ธุรกิจทั้ง 2 แบบต้องมีเหมือนกัน

ความแตกต่างของ SME และ Startup
สิ่งที่ทำให้ธุรกิจทั้งสองรูปแบบแตกต่างกันก็คือเรื่องของ “การเติบโตทางธุรกิจ” กับ “วิธีการหาเงินทุน” ซึ่ง 2 เรื่องนี้หากทำความเข้าใจแล้วจะพบว่าทำให้สามารถแยกเอสเอ็มอีออกจากสตาร์ทอัพได้อย่างชัดเจน ซึ่งการเติบโตทางธุรกิจของทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอย่างมาก บวกเพิ่มด้วยวิธีการหาเงินเข้าสู่ธุรกิจอันนี้ยิ่งจะทำให้เห็นภาพชัดกันมากขึ้นไปอีก มาดูกันเลยว่าเราจะมองธุรกิจทั้ง 2 แบบแตกต่างกันได้อย่างไร

การเติบโตทางธุรกิจและแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอี
เอสเอ็มอี เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเป็นไปอย่างคงที่ กล่าวคือทุกครั้งที่จะขยายธุรกิจย่อมจะหนีไม่พ้นเรื่องของการเพิ่มคน และการลงทุนเพิ่มในทรัพย์สิน ทำให้การขยายตัวเป็นไปได้ช้าส่วนหนึ่งเพราะต้องรอกำไรจากผลประกอบการจึงจะนำเอามาลงทุนเพิ่มทำให้ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนเรื่องของแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่ เอสเอ็มอีจะเริ่มต้นจากเงินทุนของตัวเอง หรือไม่ก็เป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินเป็นหลัก

การเติบโตทางธุรกิจและแหล่งเงินทุนของ Startup
Startup เป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะมีการออกแบบธุรกิจให้สามารถทำซ้ำและเติบโตได้แบบก้าวกระโดด มีการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องของการทำซ้ำและลดต้นทุน ทำให้สามารถขยายธุรกิจได้ในเวลาอันสั้นและใช้เงินลงทุนน้อย อีกทั้งแหล่งที่มาของเงินทุนก็ไม่ใช่เงินของตัวเองขอเพียงมีไอเดียดีๆ ก็สามารถไปหาแหล่งเงินทุนมาทำธุรกิจได้แล้ว รายละเอียดเรื่องเงินทุนจากนักลงทุนสำหรับธุรกิจ Startup จะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป

ตอนนี้เชื่อว่าทุกคนเข้าใจกันแล้วว่ารูปแบบของธุรกิจเอสเอ็มอี กับ สตาร์ทอัพแตกต่างกันอย่างไร หากใครอยากทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับ Startup สามารถติดตามเรื่องของ “สตาร์ทอัพคืออะไร” เพิ่มเติมได้