ออมสิน ชี้ กลุ่มรากหญ้าออมเงินเพียง 32.2% ลูกค้า 89.8% ยังคงทำธุรกรรมที่สาขา


นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคาร ออมสิน เผยผลสำรวจ พฤติกรรมการออมของประชาชนฐานราก รายได้ไม่เกิน 15,000 บาท จำนวน 2,150 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนฐานราก 32.2% มีเงินออม ซึ่งผู้ออมเงินส่วนใหญ่ 56.9% มีการออมแบบรายเดือนเฉลี่ย 1,500 บาทต่อเดือน

โดยออมเงินเพื่อใช้ยามฉุกเฉิน-เจ็บป่วย 71.7% สำรองไว้ใช้ 67.0% และเป็นทุนทำอาชีพ 39.3% ส่วนการออกเพื่อใช้ยามเกษียณมีเพียง 23.5% เท่านั้น ด้านลักษณะการออมจะฝากไว้กับธนาคารมากที่สุด 80.3% และส่วนใหญ่จะนำเงินไปฝากที่สาขาของธนาคาร 89.8% ใช้เครื่องฝากเงินสด 68.8% และฝากโอนบนโมบายแบงก์กิ้ง 18.4%

ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถออมเงินได้ คือ ไม่มีเงินเหลือไว้ออม 52.3% มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงิน 24.2% และมีภาระหนี้สิน 18.6%

จากผลสำรวจจะเห็นว่ากลุ่มคนฐานรากยังคงนิยมใช้บริการที่สาขาของธนาคาร ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ธนาคารออมสินไม่มีนโยบายลดสาขา เพื่อรองรับการให้บริการกับลูกค้าทุกพื้นที่ ด้านอุปสรรคที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถออกเงินได้ เป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลได้พยายามหาทางแก้ไข และสร้างให้เกิดความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กองทุนการออมแห่งชาติ และการเปิดบัญชีเงินฝากพื้นฐานสำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ