“วินเนอร์ เอสเตท” ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ เปิดอบรม ปั้นนายหน้า “อสังหาริมทรัพย์”

ปัจจุบันเราจะเห็นว่าภาคเอกชนมีการขยายการลงทุนทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับกลุ่มสมาคมอาเซียน  (AEC หรือ Asean Economics Community) และเป็นที่รู้กันว่าประเทศไทยก็มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก การพัฒนาด้านโครงสร้างส่งผลให้ธุรกิจ “อสังหาริมทรัพย์” เติบโตขึ้นตามไปด้วย ทำให้หลายบริษัทมองเห็นช่องทางของการแจ้งเกิดธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หรือจับเสือมือเปล่า โดยการเป็น “นายหน้าขายที่ดิน” หนึ่งในธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินได้เช่นเดียวกัน

 

“วินเนอร์ เอสเตท” (Winner Estate) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในวงการอสังหาริมทรัพย์ ในนาม บริษัท วินเนอร์ เอสเตท จำกัด ที่เมื่อครั้งเริ่มต้นก่อตั้ง บริษัทเป็นเพียงนายหน้าอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น สั่งสมทักษะและประสบการณ์ พัฒนาองค์กรเข้าสู่การสร้างอาณาจักรเป็นสถานฝึกอบรมนายหน้ามือใหม่ เพื่อให้ผู้ที่สนใจในอาชีพนี้ สามารถเริ่มก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการนายหน้าได้อย่างเต็มตัวและมีความเป็นมืออาชีพตัวจริง 

 

คุณณัฐจิตา พุ่มเงิน ผู้นำธุรกิจ กล่าวอธิบายถึงรูปแบบธุรกิจทุกๆ ช่องทางว่า “ทีมขายของวินเนอร์ คือผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยต้องมีพื้นฐานแนวคิดที่ว่า 1.สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างจำกัดในช่วงที่ลองผิดลองถูกกับการเริ่มต้นธุรกิจ 2.สามารถสร้างเครือข่ายของกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนเป็นของตนเองได้ 3.มองเห็นโอกาสและช่องทางที่สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ 4.หากเข้ามารับการอบรมแล้ว รู้สึกว่าอาชีพนี้ไม่ใช่และคุณก็ไม่ชอบธุรกิจนี้คุณก็ไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากในการลองผิดลองถูก”

 

ผู้นำธุรกิจกล่าวต่อว่า ผู้ที่ต้องการฝากขาย ฝากเช่า หรือต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท “วินเนอร์ เอสเตท” มีกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่อยู่ในทีม ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทั้งทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยและทรัพย์เพื่อการลงทุน สามารถติดต่อผ่านทีมขายได้เพราะทีมขายของวินเนอร์ฯ ได้ผ่านการอบรมการประเมิน วิเคราะห์ และคัดสรรเป็นอย่างดี ในระดับมืออาชีพ สามารถคัดคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์และราคาที่สมเหตุสมผลได้ ทั้งทำเลที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรวมถึงหลายๆ จังหวัดในขณะนี้ “วินเนอร์ เอสเตท” พร้อมลุย 

 

กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทปัจจุบันยังคงเป็นคนไทยมากถึง 97% ส่วนกลุ่มลูกค้าที่เป็นต่างชาติมีเพียง 3% เท่านั้น บริษัทจึงมีนโยบายเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังชาวต่างชาติให้มากขึ้น เพื่อเตรียมรองรับการเคลื่อนย้ายของกลุ่มนักลงทุนอาเซียนที่จะเข้ามายังประเทศไทย โดยแนวทางการเตรียมความพร้อมของบริษัท เริ่มต้นด้วยการพัฒนาเว็บไซต์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมถึงทีมขายให้มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศที่มากขึ้น และเลือกใช้สื่อโฆษณาที่เข้าถึงและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

 

“ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เราได้เตรียมรุกตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอินเดีย จีน และสิงคโปร์ โดยการทำสื่อที่เข้าถึงและเจาะจงกลุ่มประเทศเหล่านี้โดยตรง เพื่อดึงนักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย บริษัทสนับสนุนข้อมูลและสารสนเทศเพื่อเพิ่มช่องทางในการซื้อขายทรัพย์สิน พัฒนาระบบรายงานความคืบหน้าทั้งในการเข้ามาชมทรัพย์สินทางสื่อออนไลน์และระบบจัดการสื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์ ให้กับผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ฝากขายทรัพย์สินของเรา ที่สำคัญ ‘วินเนอร์ เอสเตท’ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเพิ่มจำนวนสมาชิกผู้ประกอบนายหน้ารายใหม่ในปี 2556 อีก 100 ท่าน ตั้งมีเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า เราจะมีผู้ประกอบการนายหน้ารายย่อยทั้งรายเก่าและใหม่ไม่น้อยกว่า 500 ท่าน เพื่อเตรียมครอบคลุมพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย”

 

จากการเปิดเผยข้อมูลการสำรวจอัตราการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในแต่ละปี ของ “ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์” (Real Estate Information Center) พบว่าเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมากถึง 3 แสนล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วนของโครงการใหม่มากกว่ามือสอง ร้อยละ 5-6 ส่วนโครงการมือสองเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ปีละ 1 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับค่านายหน้าจากการขายมือสองอยู่ที่อัตราร้อยละ 3 ดังนั้นค่านายหน้าจากการขายที่อยู่อาศัยมือสอง ต่อปีมากกว่า4 พันล้านบาท สำหรับโครงการสร้างใหม่หลายๆ โครงการก็ยังใช้บริการของทีมบริหารงานขายอีกด้วย 

 

“สรุปแล้วตัวเลข 3 แสนกว่าล้านต่อปีก็จะกลายมาเป็นตัวเลขของการขายมือสองทั้งสิ้น แต่ทำไมตลาดนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ยังขาดแคลนมืออาชีพ ถ้าผู้ที่สนใจต้องการเรียนรู้และสนุกกับการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เรามีหลักสูตรอบรม ‘นายหน้าอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพ’ เพียง 1,900 บาท ก็สามารถสร้างรายได้ด้วยตัวคุณเอง”

 

คุณณัฐจิตา กล่าวยืนยันว่า พร้อมให้ความสำคัญทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อออนไลน์ เพื่อช่วยให้นายหน้ารายใหม่ได้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อและเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น มีระบบรายงานความคืบหน้าของการขายให้กับผู้รับบริการ โดยไม่ต้องเสียค่าบริหารจัดการเพิ่ม เสมือนมีเลขามืออาชีพไว้คอยดูแลเป็นส่วนตัว ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ด้านเอกสารสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พัฒนาศักยภาพของการเป็นผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเสียส่วนแบ่งรายได้จากการขายให้กับบริษัท 

 

“นายหน้าทุกรายหากสามารถปิดการขายได้สำเร็จ สามารถรับค่านายหน้า 100% ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นธุรกิจงานขายอสังหาริมทรัพย์ได้ด้วยวงเงินที่จำกัด ด้วยค่าบริการรายปี ปีละ 36,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) อย่าลังเล สำหรับผู้ที่ต้องการมองหาอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณมากกว่าแสนต่อเดือน ซึ่งช่องทางการเริ่มต้นธุรกิจกับเรา คุณสามารถชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิตได้ทุกธนาคาร และตอนนี้เราได้รับการสนับสนุนให้ประชาชนมีธุรกิจเป็นของตนเองด้วนสินเชื่อของธนาคารออมสิน” คุณณัฐจิตา กล่าวสรุปความน่าสนใจของธุรกิจ

 

ข้อมูลธุรกิจ