ญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เพิ่งจะเริ่มเรื่อง QR Payment


ใครที่กำลังนึกว่าตอนนี้การจ่ายค่าแท็กซี่ ค่าอาหาร และการซื้อสินค้าต่างๆ ด้วย QR Code ผ่านทางสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกันแล้วละก็ ขอให้คิดใหม่ทำใหม่ได้เลยว่าสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดยังไม่เกิดขึ้นในประเทศ “ญี่ปุ่น” ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้ว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันละว่าที่ญี่ปุ่นเงินสดยังเป็นวิธีการใช้จ่ายยอดนิยม เราจึงจะไม่ค่อยเห็นคนญี่ปุ่นใช้สมาร์ทโฟนในการจ่ายนู้นนี่นั่นกันสักเท่าไร แต่ภาพคุ้นตาก็จะเป็นการแตะบัตรจ่ายมากกว่า ซึ่งบัตรที่ว่าก็มักจะเป็นบัตรที่เอาไว้ชำระค่าเดินทางโดยระบบขนส่งอย่างสาธารณะอย่างรถไฟและรถเมล มีใช้บ้างในการซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ในร้านสะดวกซื้อ ส่วนการจ่ายในร้านอาหารใหญ่ๆ ในห้างสรรพสินค้ายังคงเป็นการใช้บัตรเครดิต

สาเหตุหลักก็คือคนญี่ปุ่นคุ้นเคยกับการใช้งานระบบ NFC (Near-field communication) มานานแล้วนั่นเอง อยู่ๆ จะให้เปลี่ยนไปใช้ QR Code อะไรได้ยังไง แล้วเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นที่สิงคโปร์เช่นเดียวกัน ดังนั้นประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่จะอยู่กับระบบแตะบัตร เพราะโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ได้รับการลงทุนไปเรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีราคาสูงด้วย ไม่เหมือนกับประเทศที่ก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างประเทศจีน ที่เริ่มลงทุนด้วยระบบแบบใหม่ไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คน

แต่โลกของธุรกิจเปลี่ยนไปแล้วทุกวันนี้ข้อมูลของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ และบริการจ่ายเงินทางสมาร์ทโฟนสามารถทำให้ผู้ประกอบการ มีข้อมูลเพื่อติดต่อกับผู้ใช้งานในมิติต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเอาเรื่องของ QR Payment มาใช้ บริษัท โอะริงะมิอิงค์ จึงจับมือกับพันธมิตรจำนวนมากเพื่อเร่งสร้างความนิยมในการใช้จ่ายรูปแบบนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่าการทำให้คนเลิกใช้เงินสดได้สำเร็จ จะเป็นชัยชนะของทุกฝ่าย