ทำไมอเมริกาต้องกลัวการพัฒนาด้าน AI ของจีน


ใน Silicon Valley ที่มีความเชื่อว่า “ถ้าคุณเป็นนักลอกเลียนแบบ คุณก็จะเป็นแบบนั้นตลอดไป ไม่มีทางเป็นได้ดีกว่านี้” ซึ่งจีนก็ได้ทำให้เห็นแล้วว่าความเชื่อนั้นมันผิด เพราะการลอกเลียนแบบนั้นเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เปรียบเทียบกับการสร้างปิรามิด ถ้าคุณจะเลียนแบบเฉพาะขั้นตอนของการทำยอดปิรามิดก่อนย่อมไม่มีทางประสบความสำเร็จ แต่ถ้าคุณคัดลอกตั้งแต่วิธีสร้างฐานแล้วเรียนรู้จากประสบการณ์ แน่นอนว่าการสร้างครั้งต่อไปของคุณดีขึ้น และที่น่ากลัวคือมันมีทางที่จะออกมาดีกว่าต้นแบบ

บทบาทที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลจีนคือ นโยบายด้านเทคโนโลยีที่ยอมให้มีการพยายามใช้เทคโนโลยีที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับแล้วดูว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนปล่อยให้ Alibaba และ Tencent ทำเรื่องระบบชำระเงิน ทุกวันนี้บริการของ Alipay และ WeChat ทำให้ไม่มีที่ว่างสำหรับบัตรเครดิตแล้ว นี่คือความได้เปรียบของผู้ประกอบการในประเทศจีน

สำหรับเรื่อง AI สหรัฐอเมริกามีข้อดีอย่างการมีมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดอยู่จำนวนมาก ส่วนจีนมีข้อดีเรื่องนโยบายรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ประกอบการที่ดีมาก แต่ประเด็นสำคัญที่มนุษยชาติกำลังจะเผชิญหน้าไม่ใช่ประเด็นที่ว่าสหรัฐฯ อยู่ข้างหน้า หรือจีนกำลังก้าวไปข้างหน้า

ปัญหาที่แท้จริงคือ AI จะสร้างความมั่งคั่ง และความท้าทายมากมายให้กับเรื่องของ การเปลี่ยนงาน ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย ซึ่งเราควรจะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นนี้ หากเราไม่หาทางรับมือเรื่องเหล่านี้ อาจจะเป็นการนำไปสู่ภัยพิบัติขนาดใหญ่ที่รุนแรงกว่าภัยพิบัติอื่นๆ ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เลยทีเดียว

จากบทสัมภาษณ์บางส่วนของ Dr. Kai-Fu Lee ผู้เป็น CEO ของ Sinovation Ventures บริษัท ด้านการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญของจีนซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 มีสาขาอยู่ที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น ซีแอตเทิล และซิลิคอนแวลลีย์ บริหารจัดการเงินทุนจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ