กระทรวงอุตฯ ยืนยัน EEC ชุมชนต้องมีส่วนร่วม ชาวบ้านต้องได้ประโยชน์


รมว.อุตสาหกรรม นั่งประธานการประชุม ย้ำ สกพอ. สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนในพื้นที่ ชี้อุตฯ เป้าหมาย คนในพื้นที่ต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 3/2561 โดยมีสาระสำคัญในการประชุมดังนี้

ความก้าวหน้าในการดำเนินงานอีอีซีของปีที่ผ่านมาในโครงสร้างพื้นฐานหลัก 5 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะลงนามในสัญญากับเอกชนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และจะก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2566

ในขณะที่อีก 4 โครงการ คือ โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, โครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา, โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3, โครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 จะลงนามในสัญญากับเอกชนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ขณะเดียวกันได้กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชน รวมตลอดทั้งช่วยเหลือหรือเยียวยาประชาชนและชุมชนบรรดาที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก แลสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาและให้ทุนการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

“สิ่งที่สำนักงาน EEC จะต้องให้ความสำคัญคือเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ร่วมเป็นเจ้าของ และร่วมได้รับประโยชน์จากโครงการ เช่น การส่งเสริมผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ประชาชนจะต้องรับทราบว่า โครงการของ EEC นั้น คนในพื้นที่จะได้ประโยชน์อย่างไร EEC จะให้ประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างไร”

ขณะเดียวกันตนยังเน้นให้สำนักงาน EEC ดูแลในเรื่องของอุตสาหกรรมเป้าหมาย คืออุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งวัตถุดิบสำคัญของอุตสาหกรรมดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่และเกษตรกร