รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ปัจจุบันหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น คนวัยทำงาน ต้องมีชานมไข่มุกเป็นตัวเลือกอยู่ในนั้น ด้วยรสชาติหวาน มัน เกินห้ามใจ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้บริโภคจะยอมเสียเงินตั้งแต่ 20-100 บาท ซื้อชานมไข่มุกมารับประทานตามความต้องการของตัวเอง
แม้ชานมไข่มุกจะอร่อย ถูกปากเพียงใดก็ตาม แต่รู้หรือไม่ว่าของที่เราชอบนั้นแฝงไปด้วยภัยอันตรายที่แฝงมาอย่างไม่รู้ตัว นั่นคือ “โรคอ้วนง่าย” และ “แก่ก่อนวัย” นั่นเอง จากข้อมูลของมูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) เผยว่า ชานมไข่มุกมีส่วนผสมที่ประกอบด้วย ชา ครีมเทียม น้ำตาลทราย นมข้นหวาน ไข่มุก และผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปที่แต่งกลิ่นตามรสชาติต่างๆ และยิ่งมีส่วนผสมของกาเฟอีนด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้ผู้บริโภคติดใจ อยากกินชานมไข่มุกแก้วต่อไปอยู่เรื่อยๆ เข้าไปอีก
นอกจากนี้ หากดูในเรื่องคุณค่าทางโภชนาการด้วยแล้ว จะพบว่าชานมไข่มุกจะให้ปริมาณแคลอรี่ตั้งแต่ 200-400 กิโลแคลอรี่ แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาไปกว่านั้น คือปริมาณน้ำตาลที่มีตั้งแต่ 8- 11 ช้อนชาต่อแก้ว ซึ่งโดยปกติตามหลักโภชนาการสำหรับคนทั่วไปไม่ควรบริโภคน้ำตาล 6 ช้อนชา (สำหรับผู้หญิง) และ 9 ช้อนชา (สำหรับผู้ชาย) จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนที่ชอบกินชานมไข่มุก จะมีโรคอ้วนถามหา
ไม่เพียงเท่านั้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ชานมไข่มุกมีส่วนผสมของครีมเทียมอยู่ด้วย ซึ่งครีมเทียมมีไขมันทรานส์อยู่ เสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็งอย่างยิ่ง ส่วนแป้งที่ใช้ทำเป็นไข่มุก ขอบอกได้เลยว่าไม่มีคุณค่าทางสารอาหารแต่อย่างใด