รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ทุกวันนี้การใช้ชีวิตในแต่ละวันถือว่ามีความสำคัญมาก บางคนไม่ดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตแบบมุทะลุ ดุดัน อยากทำอะไรก็ทำตามใจ โดยการทำพฤติกรรมต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย จนในที่สุดป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาล และสุดท้ายต้องหันกลับมาใส่ใจการใช้ชีวิตประจำวันในที่สุด
ผู้ใช้กระทู้พันทิปหมายเลข 4918821 ได้โพสต์กระทู้ ดูดบุหรี่จัด พักผ่อนน้อย ทานข้าวไม่เป็นเวลา ชอบดื่มน้ำอัดลม ไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่า แวะอ่าน ก่อนจะสายเกินไป ซึ่งเป็นการแชร์ประสบการณ์เรื่องราวการใช้ชีวิต หวังเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนทั่วไป โดยมีเนื้อหาคร่าวๆ ว่า
ผมขอแชร์ประสบการณ์สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ดูแลสุขภาพตัวเอง แบบผมครับ เริ่มเรื่องเลยผมคิดว่าตัวเองค่อนข้างแข็งแรงตั้งแต่จำความได้มีป่วยบ้างแต่ไม่ต้องไปหาหมอ ไม่เคยนอนโรงพยาบาล ร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีปัญหา
งานที่ผมทำ เป็นงานที่เราชอบและสนุกกับมันอยู่แล้วไม่มีปัญหาเรื่องการทำงาน แต่มันคาบเกี่ยวเรื่องเวลาค่อนข้างมากทำให้เราละเลยเรื่อง อาหารการกิน ข้าวกินไม่เคยตรงเวลา ข้าวเช้ากินเที่ยง ข้าวเที่ยงกินเย็น ข้าวเย็นกินก่อนนอน ยิ่งเรื่องออกกำลังกาย ไม่ต้องถามครับไม่มีในระบบเลย
เลิกงานตี 2-3 เข้านอนก็ตี 4-5 ตื่นอีกทีราวๆ 8-9 โมงเช้า โดยปลุกตัวเองให้สดชื่นด้วยการดื่มน้ำอัดลม สูบบุหรี่ 6-7 มวน หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จต้องกินน้ำอัดลมแก้วใหญ่ พร้อมสูบบุหรี่อีก 3-4 มวล ระหว่างเดินทางต้องมีน้ำอัดลมติดตัวอยู่บนรถ เมื่อถึงที่หมายก็ต้องดูดบุหรี่ก่อนกินข้าวมื้อแรก หากนับแล้วดูดบุหรี่ไปอย่างน้อย 15-20 มวลเข้าไปแล้ว
เช่นเดียวกับเวลาทำงานที่น้ำอัดลม และบุหรี่ต้องอยู่คู่กันตลอด ครบวันนับดูผมดูดบุหรี่ไป 60-70 มวลต่อวัน อยู่มาวันนึงก็ใช้ชีวิตปกติ แต่รู้สึกว่ามีอาการสั่น ผ่านไป 1 ชั่วโมงก็ยังไม่หาย ใจเริ่มสั่น มีเหงื่อไหลออกทั้งร่างกาย จึงรีบไปโรงพยาบาล หมอถามอะไรก็ฟังไม่รู้เรื่อง เพราะร่างกายมันสั่นไปหมด และหายใจไม่ออก พอเช็คความดันพบว่าขึ้นสูงถึง 180/130 จนน่าตกใจ หลังผ่านไป 2 ชั่วโมงก็กลับมาเป็นปกติ
หลังกลับมาบ้านก็สูบบุหรี่ไป 2 มวล อาการที่เป็นมาก็กลับมาอีกครั้ง คราวนี้หนักกว่าเดิม ต้องไปโรงพยาบาลให้น้ำเกลือ 2 ชั่วโมง แล้วกลับบ้านมาพร้อมสูบบุหรี่อีก อาการเดิมก็กลับมาอีก เช้าวันรุ่งขึ้นเลยตัดสินใจขับรถไปโรงพยาบาล เมื่อถึงหมอจับแอดมิท พบเลือดข้นมากถึง 56% (ตามหลักเกิน 55% ต้องถ่ายเลือด) แต่หัวใจอ่อนแอ ไม่มีแรงบีบทำให้ถ่ายเลือดไม่ได้ ซึ่งเกิดจากการไม่ดื่มน้ำเปล่า เพราะดื่มน้ำอัดลมมากเกิน
หลังรู้สาเหตุ หมอให้งดของทอด หวาน มัน เค็ม อาหาร ทะเล ตลอดจนน้ำอัดลม และบุหนี่ พร้อมให้ออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมง หลังผ่านไป 1 ปี ร่างกายจึงกลับมาเป็นปกติ