ลูกจ้าง 3 กลุ่ม 14 ล้านคน เฮ! กม.เงินทดแทนบังคับใช้


กระทรวงแรงงานเตรียมบังคับใช้ พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่ ให้ความคุ้มครอง “ลูกจ้างรัฐ-มูลนิธิ-สถานทูต” เป็นครั้งแรก กำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน รายละ 480 บาทต่อปี

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน แถลงถึงกรณีการเตรียมบังคับใช้ พ.ร.บ.เงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ภายหลังประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม และมีผลบังคับใช้วันที่ 9 ธันวาคม ว่า พ.ร.บ.เงินทดแทน ฉบับนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ ให้กับผู้ประกันตน 14 ล้านคน

โดยกฎหมายฉบับนี้จะขยายการดูแลเพิ่มเติมไปยังลูกจ้าง 3 กลุ่ม ได้แก่

1.ลูกจ้างของส่วนราชการ จำนวน 902,000 คน

2.ลูกจ้างซึ่งทำงานในองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เช่น สมาคม มูลนิธิ จำนวน 100,000 คน

3.ลูกจ้าง ซึ่งได้รับการจ้างงานในประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
รวมแล้วทั้ง 3 กลุ่ม มียอดรวมไม่ต่ำกว่า 1,000,000 คน
ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับจากเดิมจะคุ้มครองเฉพาะผู้ประกัน ม.33 ที่ทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนทั่วไป โดยที่นายจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายเงินเข้ากองทุนทดแทนแต่เพียงผู้เดียว โดยจ่ายให้ลูกจ้างของลูกจ้างทั้ง 3 กลุ่มคนละ 480 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ของเงินเดือน

ทั้งนี้ การจ่ายเงินเข้ากองทุนดังกล่าวเพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิ์คุ้มครอง 4 กรณี คือ

1.เพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆ จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน

2.เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้าง ทุพพลภาพ เป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี จากเดิมไม่เกิน 15 ปี หรือตลอดชีวิต

3.เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนแก่ทายาท กรณีลูกจ้างถึงแก่ความตายหรือสูญหายมีกำหนด 10 ปี จากเดิมกำหนด 8 ปี

4.เพิ่มการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้าง เท่ากับกองทุนประกันสังคม จำนวน 40,000 บาท จากเดิมจ่ายให้ 100 เท่าของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน
ที่สำคัญ จะได้รับค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา

นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ยังกำหนดให้นายจ้างที่ได้จ้างงานวิธีเหมาค่าแรง จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเงินทดแทนเป็นครั้งแรก ซึ่งปัจจุบันมีการจ้างงานแบบเหมาค่าแรงเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำให้คนเหล่านี้ได้รับสิทธิตามกฎหมายเป็นครั้งแรก อีกทั้งในกรณีที่ลูกจ้างเสียชีวิตแต่ยังมีบุตรที่อายุเกิน 18 ปีที่ยังศึกษาอยู่ไม่เกินกว่าระดับปริญญาตรีก็จะได้รับสิทธิเงินทดแทนจนกว่าจบปริญญาตรีด้วย
“ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มช่องทางการจ่ายเงินของนายจ้าง ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จึงขอให้นายจ้างเตรียมตัวมาขึ้นทะเบียนลูกจ้างทั้ง 3 กลุ่มภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2561 ไปถึงวันที่ 7 มกราคม 2562 หากไม่มาดำเนินการจะมีโทษปรับตามกฎหมาย”พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว