“ไปรษณีย์ไทย” ไม่หวั่น ร้านสะดวกซื้อ “ส่งด่วน” อัด 3 บริการสู้ศึกโลจิสติกส์


นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ปณท.จัดแคมเปญ “ไปรษณีย์ไทย…ดี๊ดี” ยกระดับคุณภาพบริการไปสู่ผู้ให้บริการ “e-Commerce 4.0” พร้อมเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการในการเลือกใช้บริการของไปรษณีย์ไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบันถือเป็นลูกค้ากลุ่มสำคัญของไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีสัดส่วนในการส่งสูงถึง 50% ของรายได้ทั้งหมด จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 30,000 ล้านบาท มีอัตราเติบโตกว่าปีละ 20% ตามการขยายตัวของธุรกิจ “อี–คอมเมิร์ซ” ขณะที่ผู้ใช้บริการกลุ่มอื่นๆ มีสัดส่วนการใช้บริการรองลงมา อาทิ กลุ่มลูกค้าองค์กร กลุ่มลูกค้าประชาชนทั่วไป เป็นต้น
ทั้งนี้ ปณท.ได้จัด 3 บริการใหม่ ที่พร้อมตอบโจทย์กลุ่มอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ คือ

• บริการส่งด่วน EMS ในประเทศ (EMS Same Day) บริการส่งด่วนพิเศษในประเทศ โดยสามารถฝากส่ง และนำจ่ายถึงมือผู้รับได้ภายในวันเดียวกัน เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพบริการและเพิ่มความรวดเร็วในการขนส่ง เพียงฝากส่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ต้นทาง ภายในเวลา 11.00 น. ทั้งนี้ พร้อมให้บริการภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 พร้อมนำร่อง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 48 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

• การขยายจุดบริการส่งด่วนในประเทศ (EMS Point) การขยายจุดให้บริการไปรษณีย์ EMS ในประเทศ ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งไปรษณีย์ไทยจะให้บริการส่ง EMS ด้วยกล่องเหมาจ่าย ในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป

• บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) พร้อมนำส่งเข้าระบบ e-Walllet ของไปรษณีย์ไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซบริหารเงินใน e-Wallet ได้ทันที โดยจะเริ่มเปิดให้บริการภายในเดือนธันวาคม 2561 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องของร้านสะดวกซื้อเปิดธุรกิจใหม่บริการรับ-ส่งสิ่งของตลอด 24 ชั่วโมง นั้น ปณท.ไม่ได้มีความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว โดยนางสมร กล่าวว่า
“เรื่องดังกล่าวไม่ใช่ประเด็น เพราะถือว่าเป็นโอกาสของแต่ละคน เนื่องจากธุรกิจด้านโลจิสติกส์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจึงทำให้มีรายเล็ก และรายใหญ่ที่สนใจเข้ามาในธุรกิจนี้ โดยหน้าที่ของ ปณท.นั้นเราจะต้องพัฒนาตัวเองให้มีบริการที่ดีกับประชาชน ซึ่งเราก็มีข้อดี คือใกล้ชิดผูกพันกับชุมชน มีเครือข่ายที่ครอบคลุม ไกลแค่ไหนเราก็สามารถให้บริการได้ทั่วถึง”