“จีเอ็ม” ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ปลดพนักงาน 14,000 ตำแหน่ง หลังยอดขายชะลอตัว


บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น เชฟโรเล็ต, คาดิแลค ตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานจำนวน 14,000 ตำแหน่ง ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ พร้อมระงับการผลิตโรงงาน 5 แห่ง โดยบริษัทปรับแผนโครงสร้างมุ่งเน้นเจาะกลุ่มไปที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นหลักแทน

การเลิกจ้างพนักงานของ “จีเอ็ม” ในครั้งนี้ คิดเป็นร้อยละ 8 ของพนักงานทั้งหมด ที่มีรวมกัน 180,000 คน โดยการปรับโครงสร้างดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ในทวีปอเมริกาเหนือที่ผู้ผลิตรถยนต์ปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่รถยนต์ทั่วไปสู่รถยนต์ SUVs และรถบรรทุก สอดคล้องกับสถิติในเดือนตุลาคมที่ระบุว่ายานพาหนะร้อยละ 65 ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คือรถยนต์ SUVs และรถบรรทุก ซึ่ง “จีเอ็ม” กำลังมองหาโอกาสในตลาดนี้ หลังจากปัจจุบันรถยนต์ที่พวกเขาผลิตอยู่ไม่สามารถทำเงินได้ตามเป้าหมายเท่าที่ควร

การตัดสินใจของ “จีเอ็ม” สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการการเมืองเลยที่เดียว โดยเฉพาะโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่ออกมาแสดงความไม่พอใจ เพราะเป็นการสวนทางกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นการกระทบฐานเสียงในพื้นที่รัฐโอไฮโอที่ “จีเอ็ม” ปิดโรงงานอีกด้วย

ที่มา : time