มาเลเซียแห่โค่นปาล์มน้ำมัน หันมาปลูกทุเรียนส่งออกจีน


รัฐบาลมาเลเซียตั้งเป้าส่งออกทุเรียนไปยังจีนเพิ่มขึ้น 50% ภายในปี 2573 เนื่องจากให้รายได้ดีกว่าการผลิตน้ำมันปาล์ม

ทั้งนี้ จีนนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้น 15% ในปีที่แล้ว ใกล้ระดับ 350,000 ตัน คิดเป็นวงเงิน 510 ล้านดอลลาร์ ซึ่งราว 40% จากจำนวนดังกล่าว เป็นการนำเข้าทุเรียนจากไทย ส่วนทุเรียนจากมาเลเซียคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% แต่รัฐบาลมาเลเซียคาดว่าการส่งออกทุเรียนไปยังจีนจะพุ่งแตะ 22,061 ตันภายในปี 2573 จากระดับ 14,600 ตันในปีนี้

ทุเรียนมาเลเซียที่ได้รับความนิยมในจีนคือพันธุ์ “Musang King” ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นและรสชาติที่หอมหวาน และราคาได้พุ่งขึ้นเกือบ 4 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

นายลิ้ม ชิน คี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทุเรียน กล่าวว่า บริษัท IOI ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม และบริษัทเบอร์จายา ซึ่งเป็นบริษัทรายใหญ่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้ติดต่อเขาเกี่ยวกับการเข้าลงทุนในการทำสวนทุเรียน

ทางด้านบริษัท พีแอลเอส แพลนเตชั่น ซึ่งเป็นบริษัททำสวนปาล์ม ระบุว่า บริษัทจะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 5 ล้านดอลลาร์ในบริษัทส่งออกทุเรียนแห่งหนึ่ง

กระทรวงเกษตรมาเลเซียเปิดเผยว่า พื้นที่เพาะปลูกทุเรียนในมาเลเซียมีจำนวน 72,000 เฮคเตอร์ในปีที่แล้ว แต่ขณะนี้จำนวนพื้นที่เพาะปลูกกำลังเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันหันมาปลูกทุเรียน เนื่องจากมีผลตอบแทนดีกว่า โดยการเพาะปลูกทุเรียนพันธุ์ “Musang King” ในพื้นที่ 1 เฮคเตอร์ ให้ผลตอบแทนมากกว่าการปลูกปาล์มน้ำมันถึง 9 เท่า

กระทรวงเกษตรยังระบุว่า สำหรับในรัฐซาบาห์นั้น การทำสวนทุเรียนจะมาจากการโค่นต้นปาล์มน้ำมัน โดยคาดว่าจะมีการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนมากกว่า 5,000 เฮคเตอร์