ทิศทางการปรับตัว เพื่อความอยู่รอด ของนักการตลาดรุ่นใหม่


จากงาน Marketing Day 2018 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โลกธุรกิจยุคนี้ เผชิญกับความเปลี่ยนแปลง และผันผวนจากแนวโน้มทางเศรษฐกิจ เช่น

  • Trade War ซึ่งยังไม่จบง่ายๆ และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแน่นอน เนื่องจาก Trade Balance ของโลกเปลี่ยน
  • เทคโนโลยีปลี่ยน มีเทคโนโลยีใหม่ๆเพิ่มขึ้น จึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักการตลาดยุคปัจจุบัน 
  • แนวโน้มทางการตลาด มีการเชื่อมโลกเป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความเป็น globalize แต่ขณะเดียวกัน เทรนด์ปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยนจาก Globalization เป็น Localization ซึ่งจะขยายไปถึงระดับ Personalize เพราะผู้บริโภคมีความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น

การทำธุรกิจ จึงไม่ได้วัดจากการเป็น ปลาใหญ่ มาเป็นปลาไว อีกต่อไป แต่ต้องเป็น ‘ปลาที่ใช่’ ซึ่งหัวใจแห่งความสำเร็จ ประกอบด้วย 5R หรือ 5ใช่ คือ Right People คนที่ใช่, Right Product สินค้าที่ใช่, Right Purpose วัตถุประสงค์ที่ใช่, Right Approach & Right Time ถูกวิธี ถูกที่ ถูกเวลา

ด้าน ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ประธานหลักสูตร Master in Branding and Marketing และอาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า ไม่มีใครรู้ถึงขอบเขตของดิจิทัลว่าอยู่ที่ตรงไหน ทั้งต่อจากนี้ไปจะไม่มีเส้นแบ่งเส้นแบ่งระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์ ซึ่งแบรนด์ต้องปรับตัวเป็น On Life คือเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค

ทั้งทุกปี ยังมีเครื่องมือทางเทคโนโลยี MarTech (Marketing Technology) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากปี 16 ที่ทั่วโลกมี MarTech ราว 3,500 เครื่องมือ ปี 17 (5,000 เครื่องมือ) และคาดว่าเพิ่มเป็น 7,000 เครื่องมือในปีนี้ จึงทำให้นักการตลาดใหม่ จะต้องมีทักษะความรู้ด้านอื่น เห็นได้จาก 5 ตำแหน่งทางการตลาดใหม่ ที่รวมศาสตร์ต่างๆ ไว้ด้วยกันจนเป็นที่ต้องการของตลาดดังนี้

Chief Marketing Technologist: ต้องทักษะการเป็นนักการตลาด, นักเทคโนโลยี, มีความคิดสร้างสรรค์, มีความเป็นครู เพราะต้องสามารถอธิบายให้คนเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีสินค้าที่บริษัทพัฒนาขึ้น พร้อมสร้างแผนการตลาดของสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์องค์กร

Chief Customer Experimenter: ต้องมีทักษะการเป็นนักการตลาด, นักวิจัย, นักวิทยาศาสตร์ และ นักเศรษฐศาสตร์ ตำแน่งนี้จะเกี่ยวข้องกับการสร้างประสบการณ์ผู้บริโภค และการทดลองตลาด ที่ไม่ใช่เป็นการทำสำรวจวิจัยการตลาดรูปแบบเก่า แต่จะเน้นทดลองตลาดกับผู้บริโภคจริง ทำให้สามารถเข้าใจผู้ซื้อ และผู้ใช้สินค้าจริง ว่าคือกลุ่มไหน มีพฤติกรรมการซื้อย่างไร

Customer Data Artist: ต้องมีทักษะการเป็นนักการตลาด, นักสถิติ, มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความรู้วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เพราะ Big Data จะช่วยให้แบรนด์รู้จักผู้บริโภค เพราะหากวิเคราะห์ และใช้เป็น จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า โดยที่ลูกค้าไม่รู้ตัว

Chief Responsible Marketer: ต้องมีทักษะการเป็นนักการตลาด, มีความรู้ด้าน CSR, เป็นนักพัฒนา และผู้จัดฝ่ายบุคคล เพราะทุกองค์กรต่างต้องการทำ CSR แต่มักติดเรื่องงบประมาณ แผนจึงถูกตีกลับ ฉะนั้นการทำ CSR อย่างยั่งยืน องค์กรต้องสามารถผสานการตลาด เพื่อให้แผน CSR สามารถทำเงินได้ ควบคู่กับการทำความดี

Customer Witch Catcher: ต้องมีทักษะการเป็นนักการตลาด, เข้าใจกฎหมาย, มีความเป็นครู และมีทักษะรายงานข่าว เพราะที่ผ่านมามีการตลาดสีเทาคอยทำร้ายสังคมอย่างต่อเนื่อง แต่มีคนกลุ่มหนึ่งที่คอยตีแผ่ให้สังคมรับรู้ ทั้งผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับความโปร่งใส และจริยธรรมทางธุรกิจมากขึ้น ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นในสังคม และเป็นสื่อกลางการตีแผ่จึงสำคัญ เพราะจะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภค

เหล่านี้ เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องก้าวตามให้ทัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องรู้จัก MarTech ทั้งหมด แต่ต้องรู้ และนำไปใช้ให้เหมาะสม