++สมัยนี้ธุรกิจร้านกาแฟไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็พบว่ามีอยู่มากมายเต็มไปหมด มีหลากหลายรูปแบบทั้งกาแฟโบราณ กาแฟสด จะมีอยู่สักกี่ร้านที่รสชาติถูกปากและถูกใจ จนอยากที่จะกลับไปซื้ออีก แต่สำหรับ “กาแฟแซ่บเวอร์” ถือได้ว่าเป็นกาแฟประยุกต์ระหว่างกาแฟโบราณและกาแฟสด ที่ได้รสชาติออกมาอย่างลงตัวรสเข้มข้น ไม่หวานมาก หอมกลิ่นกาแฟสดได้อารมณ์การดื่มไปอีกแบบ
++คุณสายสุรีย์ ปราณีตพลกรัง เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด แซ่บเวอร์ เล่าถึงความเป็นมาของกาแฟแซ่บเวอร์ว่า เริ่มมาจากที่เป็นคนชื่นชอบดื่มกาแฟ จนได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม และได้ไปชิมกาแฟข้างถนนที่นั่น ซึ่งเป็นกาแฟเอสเปรสโซที่ใส่นม คล้ายๆ กับกาแฟโบราณในบ้านเรา จึงทำให้มีความรู้สึกชื่นชอบและติดใจในรสชาติกาแฟสดและอยากจะทำกาแฟที่ได้รสชาติแบบนี้เป็นอย่างมาก หลังจากกลับมาจากเวียดนามก็ได้กลับมาศึกษาเกี่ยวกับการทำกาแฟอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ถูกใจมากที่สุด
++กาแฟแซ่บเวอร์ เพิ่งเริ่มดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 3 เดือน ขายกาแฟโบราณแบบประยุกต์ โดยมีจุดเด่นที่ว่าไม่ใช่กาแฟโบราณจนเกินไป เป็นการชงที่ลงตัวพอดีระหว่างกาแฟโบราณกับกาแฟยุคใหม่ ด้วยเทคนิคในการชงที่เป็นแบบฉบับของแซ่บเวอร์ ใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าที่คัดพิเศษมาจากไร่กาแฟที่เชียงใหม่ นำมาชงในรูปแบบของกาแฟโบราณ จะได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมจากอาราบิก้า ผสมกับกาแฟโรบัสต้า (ผงกาแฟโบราณ) ซึ่งจะให้ความเข้มของกาแฟเมื่อนำมาชงใส่นมข้น และน้ำแข็งกลายเป็นสูตรที่ลงตัว
++ด้วยจุดเด่นของรสชาติจจึงทำให้ลูกค้าในตลาดกว้างมากยิ่งขึ้น ทั้งรสชาติและกลิ่นที่ละมุนละไม ที่ผ่านกรรมวิธีการชงพิเศษที่ทำให้ลงตัวทั้งรสชาติและกลิ่น สามารถเพิ่มหรือลดความเข้มข้นได้ตามความพอใจของลูกค้า เนื่องจากเป็นกาแฟรูปแบบชงสดแก้วต่อแก้ว สามารถตอบโจทย์หรือพลิกแพลงได้ตลอดเวลา
++“การที่เปิดขายแฟรนไชส์ เนื่องจากมีผู้ที่สนใจเข้ามาทำธุรกิจที่หลายๆ คนอาจจะมีเงินทุนน้อยและอยากจะมีธุรกิจ สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะมาเป็นแฟรนไชส์ต้องมีใจรักในการทำกาแฟและชื่นชอบกาแฟ โดยจะกำหนดให้เจ้าของที่ซื้อแฟรนไชส์มาเรียนโดยตรง เรียนรู้การทำกาแฟจนกว่าจะทำได้” คุณสายสุรีย์ กล่าว
++สำหรับราคาแฟรนไชส์ของกาแฟแซ่บเวอร์มีราคาเดียว 25,000 บาท ซึ่งผู้ที่เข้ามาเป็นแฟรนไชซีจะได้รับอุปกรณ์ในการทำกาแฟครบชุด ตั้งแต่คีออสก์(เคาน์เตอร์) ไปจนถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่สามารถเปิดร้านได้เลย พร้อมกับหลักสูตรเทคนิควิธีการชงกาแฟในแบบฉบับของการแฟแซ่บเวอร์
++นอกจากนี้ในกรณีที่แฟรนไชซีต้องการจะสั่งวัตถุดิบ กาแฟแซ่บเวอร์มีบริการจัดส่ง โดยจะจัดส่งเมล็ดกาแฟกิโลกรัมละ 250 บาท และผงโกโก้ราคากิโลกรัมละ 300 บาท สำหรับการจัดส่งหรือการรับสินค้าขึ้นอยู่กับความสะดวกของลูกค้า โดยราคาค่าขนส่งคิดตามระยะทางจริง
++สำหรับผลกำไรที่ผู้ลงทุนจะได้รับโดยเฉลี่ย 10 บาทต่อ 1 ถุง การตั้งราคาขายถุงละ 20-25 บาท ทั้งนี้ราคาขายขึ้นอยู่กับทำเลของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ส่วนพื้นที่ในการตั้งแฟรนไชส์หรือขอบเขตการตั้งร้านกาแฟแซ่บเวอร์ ถ้าเป็นอำเภอที่ไม่ใหญ่มากจะกำหนดให้ใน 1 อำเภอ มี 1 แฟรนไชส์ แต่ถ้าเป็นจังหวัดใหญ่ ก็จะกำหนด 1 เขต มี 1 แฟรนไชส์ ทั้งนี้การที่กำหนดแฟรนไชส์ในแต่ละพื้นที่เนื่องจากว่าไม่ต้องการให้แฟรนไชส์ซีแย่งยอดขายกันเอง
++คุณสายสุรีย์ กล่าวว่า จากการประเมินยอดขายกาแฟแซ่บเวอร์ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ยอดขายของกาแฟแซ่บเวอร์ขั้นต่ำในแต่ละวันเฉลี่ย 200 ถุงต่อวัน ถ้าจะคำนวณการคืนทุนกล้าการันตีว่าระยะเวลาคืนทุนประมาณไม่ถึงเดือนก็สามารถคืนทุนได้แน่นอน
++ปัจจุบันกาแฟในรูปแบบถุงมีค่อนข้างเยอะในท้องตลาดที่สำคัญหาซื้อได้ง่ายมากๆ แต่ที่มั่นใจว่ากาแฟแซ่บเวอร์สามารถแบ่งส่วนทางการตลาดได้ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นด้วยคุณภาพและรสชาติกาแฟที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับกรรมวิธีและขั้นตอนในการชงในแบบฉบับของกาแฟแซ่บเวอร์ สิ่งสำคัญที่สุดคือรสชาติของกาแฟที่จะสามารถมัดใจลูกค้าและกลับมาซื้อกาแฟอีกครั้งไม่ว่ากาแฟจะอยู่ตรงไหนก็ตาม
++“ผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจที่ลงทุนแล้วไม่เสี่ยงมาก คุ้มทุนเร็ว ผู้ที่สนใจอยากจะเข้ามาเป็นแฟรนไชส์กาแฟแซ่บเวอร์ พูดได้ว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ราคาก็ไม่แพง และคืนทุนได้ด้วยระยะเวลารวดเร็ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดขอให้มีใจรักในการทำกาแฟ หรือชื่นชอบรสชาติกาแฟ ก็จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนี่ได้ไม่ยากนัก แซ่บเวอร์จะไม่ทำให้ผิดหวัง” คุณสายสุรีย์ กล่าวปิดท้าย
//////////////////////////////////
ชื่อธุรกิจ
|
ห้างหุ้นส่วนจำกัด แซ่บเวอร์
|
ประเภทธุรกิจ
|
กาแฟโบราณ “แซ่บเวอร์”
|
รูปแบบการลงทุน
|
แฟรนไชส์
|
งบการลงทุน
|
25,000 บาท
|
ที่อยู่
|
23 หมู่ 8 ตำบลประทาย อำเภอประทาย จังหวัดนคราชสีมา 30180
|
ติดต่อ
|
08-7449-1800,08-1877-3659
|
เว็บไซต์
|
www.Saabver.com
|