น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ กำลังเจาะตลาดเชิงรุกประเทศเวียดนาม ทำการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์การค้าการลงทุนในพื้นที่ ผ่านกลไกสานพลังประชารัฐ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ร่วมกับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการค้าระหว่างประเทศ (HTA) ของกระทรวงพาณิชย์ในเวียดนาม เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลการตลาดด้านต่างๆ และยังผนึกกำลังกับนักธุรกิจไทยสาขาต่างๆ ในเวียดนาม เพื่อให้สามารถเข้าถึงปัญหาอุปสรรค และโอกาสทางธุรกิจของไทยในเวียดนามได้อย่างเจาะลึก
“กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะเลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนการค้าการลงทุนของไทยกับแต่ละประเทศ CLMV ได้จัดประชุมคณะทำงานฯ ครบทั้ง 4 คณะแล้ว ซึ่งผลการประชุมในส่วนคณะทำงานฯไทยกับเวียดนาม มีข้อเสนอแนะในการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ไทยขยายธุรกิจสู่เวียดนาม โดยให้ดำเนินการผ่านช่องทางจัดจำหน่ายทั้ง 3 ช่องทาง คือ ช่องทางแบบดั้งเดิม ช่องทางแบบสมัยใหม่ และอีคอมเมิร์ซ
เนื่องจากปัจจุบัน ช่องทางจัดจำหน่ายแบบดั้งเดิมยังเป็นช่องทางหลักในเวียดนาม โดยมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 90 ส่วนช่องทางสมัยใหม่ เป็นโอกาสเนื่องจากมีผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนในธุรกิจค้าปลีกในเวียดนาม และอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ช่องทางแบบดั้งเดิมค่อนข้างเข้ายาก และผู้ประกอบการไทยขาดความเข้าใจเกี่ยวกับโมเดลการกระจายสินค้าของเวียดนาม (distribution model) ประกอบกับตลาดเวียดนามเป็นตลาดขนาดใหญ่มีคู่แข่งจำนวนมาก จึงต้องมีเงินลงทุนค่อนข้างสูง ในส่วนช่องทางสมัยใหม่ การเข้าสู่ตลาดผ่านช่องทางนี้มีความง่ายกว่า แต่มีค่าธรรมเนียมต่างๆค่อนข้างมาก นอกจากนี้ พื้นที่ภาคเหนือกับภาคใต้มีความแตกต่างกันทั้งพฤติกรรมการบริโภค และผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอีกด้วย
น.ส.บรรจงจิตต์ กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าการค้าไทย-เวียดนาม เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในอาเซียน การค้าของไทยกับเวียดนาม ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2556-2560) มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 13,141.13 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 9.74 ต่อปี
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 การค้ารวมไทย-เวียดนาม มีมูลค่า 13,676.69 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญไปเวียดนาม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ ขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน น้ำมันดิบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็กเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ไทยและเวียดนาม ได้ตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างกันที่ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563