กระทรวงอุตสาหกรรม เผยนโยบาย Factory 4.0 ผลักดันผู้ประกอบการ เดินหน้าพัฒนาแรงงานทั้งระบบ ตลอดจนการดูแลแรงงานในวัยเกษียณ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 ในอนาคต
ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า ปัจจัยหนึ่งที่กระทรวงอุตฯ ให้ความสำคัญ และเล็งเห็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน การทำงานร่วมกันระหว่างเทคโนโลยีและแรงงานคน โดยการปรับเปลี่ยนทักษะ (Re-skill) และเพิ่มทักษะ (Up-skill) ฝีมือและความชำนาญทั้งในเชิงคุณภาพและมาตรฐานของแรงงานไทยให้สอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ “Factory 4.0” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐจะให้การสนับสนุนส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีประสิทธิภาพการผลิตมากขึ้น ช่วยลดต้นทุนและความยุ่งยากในการใช้บริการกับภาครัฐลง การพัฒนาชุมชน การส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และการดูแลองค์ประกอบสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก รวมไปถึงการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ
โดยกระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐขับเคลื่อนและพัฒนา ด้านแรงงานภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้ครอบคลุมในทุกมิติทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.การพัฒนากำลังคนในระดับอาชีวะ เน้นผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนร่วมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในระดับอาชีวะร่วมกับภาครัฐและภาคการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย
2.การพัฒนาฝีมือแรงงานภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ ตั้งแต่ การอบรมพัฒนาแรงงานให้มีความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยีเฉพาะ โดยในปี 2562 เฉพาะในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมเองจะมีการพัฒนาแรงงาน ประมาณ 70,000 คน และหากนับการได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 60–62 จะมีการพัฒนาแรงงานรวมถึง 210,000 คน
3.การพัฒนาแรงงานหลังเกษียณ สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับแรงงานสูงวัย เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการใหม่วัยเกษียณ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้เกษียณอายุ ในช่วงอายุ 55-60 ปีที่มีความตั้งใจที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ ให้สามารถเขียนโมเดลธุรกิจอย่างง่าย มีเครือข่ายเชิงธุรกิจ และเกิดความภูมิใจในการประกอบธุรกิจของตนเอง