ปัจจุบันมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเกือบทุกวัน การตั้งชื่อแบรนด์ จึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าการสร้างแบรนด์ เพราะชื่อของสินค้าหรือบริการเป็นสิ่งที่มีไว้ใช้เรียกขาน ในขณะที่สินค้าหรือบริการอาจมีความแตกต่าง โดดเด่น น่าสนใจ แต่ชื่อเรียกยาก อ่านยาก จดจำยาก เข้าใจยาก ก็จะส่งผลต่อการรับรู้และการจดจำของผู้บริโภค ดังนั้นจะตั้งชื่อแบรนด์อย่างไร…ให้โดน มีเคล็ดลับที่ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจในประเด็นดังต่อไปนี้
•Easy to spell: สะกดคำให้ง่าย การสะกดคำถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ควรสะกดให้ง่าย และต้องจินตนาการว่าหากลูกค้าได้ยินชื่อแบรนด์เรา โดยที่ยังไม่เห็นชื่อแบรนด์ ก็สามารถจะเดาได้ว่าต้องเขียนและสะกดแบบไหน เพราะถ้าเป็นคำที่สะกดยาก นั่นหมายถึงว่าผู้บริโภคจะไม่สามารถค้นหาชื่อสินค้าหรือบริการของเรา บอกเล่า หรือแนะนำต่อได้ เพราะไม่รู้ว่าสะกดหรือเขียนอย่างไร ซึ่งจะทำให้เสียโอกาส โดยไม่จำเป็น
•Easy to pronounce: ออกเสียงได้ง่าย การออกเสียงได้ง่ายสำคัญไม่น้อยกว่าการสะกดคำแบบง่าย เพราะเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน การสะกดคำแบบง่าย ก็จะช่วยให้ออกเสียงได้ง่าย และสืบค้นได้ง่ายเช่นกัน
•Aim for Simplicity: ทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ โดยตั้งชื่อแบรนด์ที่ใช้คำสั้นๆ เพียง 1-2 คำ เพื่อช่วยสร้างการจดจำ จะเห็นได้ว่าแบรนด์ใหญ่ๆ ระดับโลก จะใช้คำสั้นๆ ในการตั้งชื่อ เพราะคำสั้นๆ ช่วยให้ง่ายต่อการจดจำ ในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคมีเรื่องที่ต้องจดจำหลายอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าชื่อแบรนด์สั้น และเข้าใจง่าย ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคจดจำเราได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างชื่อแบรนด์ระดับโลกที่เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยม เช่น Amazon, Apple, Toyota, Samsung, Google และ Starbucks ก็ล้วนใช้คำเพียง 1-2 คำเท่านั้น และการตั้งชื่อที่ดีควรมีความหมายเกี่ยวโยงกับธุรกิจที่ทำอีกด้วย
•Check Availability: ตรวจสอบความเป็นไปได้ เมื่อตั้งชื่อแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องทำคือ ตรวจสอบความเป็นไปได้ในการใช้ชื่อนั้นๆ ว่ามีผู้อื่นนำไปใช้หรือยัง การตรวจสอบเบื้องต้นทำได้โดยการ Key ชื่อแบรนด์ที่เราตั้งใจจะใช้ เพื่อค้นหาว่าซ้ำกับใครหรือไม่ รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้ชื่อ ที่สำคัญผู้ประกอบการควรศึกษาถึงข้อห้ามต่างๆ ในการตั้งชื่อร่วมด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการทำงานในขั้นตอนต่อไป
•Think about the Logo: ถึงแม้การออกแบบโลโก้จะเป็นสิ่งที่ตามมาหลังการตั้งชื่อแบรนด์ก็ตาม ชื่อแบรนด์จะเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่จะอยู่ในโลโก้ หรือบางครั้งชื่อแบรนด์จะถูกนำมาออกแบบเป็นโลโก้ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ดังนั้นการตั้งชื่อจึงต้องคำนึงด้วยว่าหากมีการนำไปออกแบบ จะไปจัดวางอย่างไรให้มีความสวยงาม และดูโดดเด่นน่าสนใจ
•Consider Future Growth: การตั้งชื่อแบรนด์ท้ายที่สุดแล้ว ต้องคำนึงถึงการเติบโตของธุรกิจในอนาคตด้วย ชื่อแบรนด์ที่ดีควรใช้ได้ยาวนาน ครอบคลุมถึงการขยายธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย มิฉะนั้นต้องมาปรับหรือเปลี่ยนชื่อใหม่ หากชื่อที่มีอยู่เดิมไม่ครอบคลุมถึงธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ยกตัวอย่างเช่นปัจจุบันคุณทำธุรกิจขายอาหารแมวจึงเลือกใช้ชื่อว่า “Cat Food…” แต่ในอนาคต คุณต้องการขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มการจำหน่ายอาหารสุนัขด้วย ชื่อที่มีอยู่เดิมจึงไม่ครอบคลุม แต่ถ้าหากคุณเลือกใช้ชื่อแบรนด์ “Healthy Pets…” ก็จะเป็นชื่อที่ครอบคลุมถึงธุรกิจในหมวดอาหารสัตว์ ไม่จำเพาะแค่แมวและสุนัขเท่านั้น จึงทำให้คุณสามารถขยายธุรกิจได้ในอนาคตโดยไม่ต้องตั้งชื่อใหม่ หรือผู้ประกอบการมีความตั้งใจจะขยายธุรกิจไปต่างประเทศ การตั้งชื่อแบรนด์เป็นภาษาไทยก็อาจมีข้อจำกัด ในการอ่านหรือทำความเข้าใจ สิ่งเหล่านี้จึงล้วนมีความสำคัญก่อนที่คิดจะตั้งชื่อ
ได้เคล็ดลับกันไปแล้ว ก็หวังว่าผู้ประกอบการทุกคน ที่กำลังสับสนกับการตั้งชื่อแบรนด์ จะได้มีชื่อแบรนด์ที่ตรงใจทั้งตนเองและผู้บริโภค การตั้งชื่อแบรนด์ที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย ออกเสียงง่าย แต่มีความหมายที่สื่อถึงสินค้าหรือบริการได้ดี จะช่วยให้ผู้ประกอบการล้ำหน้ากว่าผู้ประกอบการคนอื่นๆ แต่ที่สำคัญ เมื่อสร้างแบรนด์แล้วก็ต้องสื่อสารแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักด้วย เพราะจะช่วยให้ผู้บริโภคจำเราได้ง่ายขึ้น
หมายเหตุ เรียบเรียงเนื้อหาบางส่วนจาก https://www.business.com/articles/5-tips-for-creating-an-effective-brand-name/
