อ.ต.ก.เล็งเสนอ รมว.เกษตรฯ ทุ่มงบ 3 พันล้านบาท ปรับโฉมครั้งใหญ่เป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ชูสินค้าเด่นจากเกษตรกร ตั้งเป้ารายได้ 20,000 ล้านบาทในปี 64 เผยเตรียมขึ้นค่าเช่าแผง 608 แผง 1 ม.ค.62
นายกมลวิศว์ แก้วแฝก ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กล่าวว่า เตรียมรายงานให้กับ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมแผนการสร้างตลาดนํ้าและตลาดเกษตรครบวงจรในพื้นที่ย่าน อ.ต.ก.เดิม คาดว่าจะใช้เงินประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นเงินทุนของ อ.ต.ก. เพื่อหาตลาดให้เกษตรกรโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง อีกทั้งมุ่งหวังให้เป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ยืนยันว่าสินค้าจำหน่ายจะเป็นคนละประเภทกับสินค้าในตลาดที่มีอยู่แล้ว โดยจะเน้นสินค้าเด่นๆ ของกลุ่มเกษตรกรจากทั่วประเทศมาจัดจำหน่ายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เมื่อคนเข้ามามากขึ้นก็จะกระจายคนไปสู่ตลาดต่างๆ ของ อ.ต.ก. ผู้ประกอบการเดิมจะจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น
นอกจากนี้ มีแผนขยายการดำเนินงาน อ.ต.ก.ทุกสาขาตามวิสัยทัศน์ว่าจะเป็นตลาดสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาทภายในปี 2564 โดยมีเป้าหมายปี 2562 จะเพิ่มมูลค่าตลาดเป็น 5,000 ล้านบาท ปี 2563 เป็น 10,000 ล้านบาท และปี 2564 เป็น 20,000 ล้านบาท จากปัจจุบันตลาด อ.ต.ก. (ย่านจตุจักร) มีมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท สำหรับนโยบายปี 2562 มี 3 ประเด็นหลัก คือ การสร้างมูลค่าเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท ลดการขาดทุน และประกาศการคอร์รัปชั่นของ อ.ต.ก.ต้องเป็นศูนย์
“ปี 2558 อ.ต.ก.ขาดทุน 120 ล้านบาท ล่าสุดสามารถปรับลดขาดทุนเหลือ 80 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะลดการขาดทุนเหลือ 30 ล้านบาท แต่มีภาระเพิ่มขึ้นจากค่าเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อีกกว่า 50 ล้านบาท” นายกลมวิศว์ กล่าว
นายกมลวิศว์ กล่าวว่า เพื่อลดการขาดทุน อ.ต.ก.จึงจำเป็นต้องเก็บค่าเช่าแผงเพิ่มขึ้น ปัจจุบันเก็บค่าเช่า 608 แผง อัตราค่าเช่าเฉลี่ยตํ่าสุด 74.50 บาทต่อแผงต่อวัน คิดเป็นเดือนละ 2,235 บาท สูงสูด 377 บาทต่อแผงต่อวัน คิดเป็นเดือนละ 11, 600 บาท ในกว่า 600 แผง ต่ำกว่า 200 บาทต่อวัน ประมาณ 390 แผง ส่วนใหญ่ตํ่ากว่า 200 บาท ซึ่งไม่ได้แพงจริง แต่ผู้ค้ามักไปอ้างว่าค่าเช่าแพง ซึ่งยืนยันว่าค่าเช่าไม่ได้แพงกว่าที่อื่นแน่นอน ยกตัวอย่างราคาแผง 200 บาทต่อวัน ปรับขึ้นที่ 40% คิดคำนวณราคาใหม่ 80 บาทต่อวัน จ่ายเป็น 280 บาทต่อวัน โดยราคาที่ปรับขึ้นใหม่จะจ่ายในวันที่ 1 มกราคม 2562