เป็นธรรมดา เมื่อเราต้องอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากที่รวมตัวกันเป็นสังคมอันประกอบด้วยคนหลากหลายที่มาที่ไป โดยเฉพาะในการทำงานบางครั้งอาจมีเรื่องให้ต้องกระทบกระทั่งกับเพื่อนร่วมงานกันบ้าง ด้วยภาวะเครียดจากความกดดันในการทำผลงาน อาจจะเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป หรือที่ในยุคนี้เรียกว่า เคมีไม่ตรงกัน แต่อย่าลืมว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมและเราทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยทีมงาน เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน หรือแผนกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
คุณเคยรู้สึกว่าไม่ชอบเพื่อนร่วมงานไหม?? ถ้าเคยมันมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เราไม่ชอบพวกเขาเหล่านั้นกัน Jobthai.com ได้รวมเอาพฤติกรรมที่อาจจะทำให้เพื่อนร่วมงานไม่ชอบตัวเราให้ได้ลองเช็คลิสต์ตัวเองดู ว่าเข้าข่ายบุคคลที่ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วยอยู่หรือเปล่า แล้วถ้ามีเราจะพอแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ไปดูกัน
คิดแต่ที่จะทำให้ตัวเองโดดเด่น
ไม่ว่าเราหรือใครก็อยากโดดเด่นเป็นที่จับตามองโดยเฉพาะในเรื่องหน้าที่การงาน การทำตัวเองให้โดดเด่นเฉิดฉายเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว ก็ยังส่งผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพด้วย แต่การที่เราพยายามมากเกินไปถึงขั้นขโมยสปอตไลท์จากคนอื่น เอาความดีความชอบมาเป็นของตนเองคนเดียวย่อมไม่มีใครเห็นดีเห็นงามด้วยแน่นอน
หากผลงานชิ้นนั้นเป็นสิ่งที่เราทำการที่เราจะนำความดีความชอบนั้นมาเป็นของเราย่อมไม่ใช่สิ่งผิด แต่หากผลงานชิ้นนั้นมีการร่วมงานกับเพื่อนพนักงานคนอื่นหรืออาจจะเป็นลูกน้องของตัวเราเองการให้เครดิตกับคนเหล่านี้ด้วยเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่างที่เราเองต้องการความโดดเด่นผู้อื่นก็คงต้องการไม่ต่างจากเราซึ่งการให้เครดิตผู้อื่นเป็นการแสดงออกให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับทีม เราให้การยอมรับในผลงานและฝีมือของพวกเขา สร้างให้พวกเขาเองเกิดความภาคภูมิใจและเป็นการซื้อใจเพื่อนร่วมงานในอีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน
ไม่เคยมองเห็นความผิดพลาดของตัวเอง
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากจะปกป้องตัวเองจากความรู้สึกผิดในทุก ๆ เรื่อง เรื่องงานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ผิดคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นผมคำกล่าวนี้จึงไม่เกินความเป็นจริงเลย เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในที่ทำงาน เรากลับไม่พิจารณาตนเองก่อน หรือไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเอง กลับโยนให้ทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่นหมด ลองพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นหนึ่งในคนแบบนี้หรือเปล่า
ไม่ต้องอายที่จะยอมรับความผิดพลาดของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ คนเราย่อมมีการผิดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา การยอมรับผิด และพร้อมที่จะหาทางแก้ไขปัญหา ไม่โทษผู้อื่นไม่เพียงแต่จะช่วยให้เพื่อนร่วมงานชอบเรามากขึ้น แต่ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและความซื่อตรงให้กับตัวเราเองได้อีกด้วย แต่แน่นอนว่าเราเองก็ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น และพยายามพัฒนาตัวเองเพื่อไม่ให้ความผิดพลาดเกิดขึ้นอีก
วิจารณ์ทุกอย่าง
การที่เราแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ เป็นการกระทำที่ไม่ได้ผิดอะไร แต่การวิจารณ์หรือตำหนิไปทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นงาน โปรเจกต์ต่าง ๆ หรือแม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนร่วมงานแล้ว ยังอาจเกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างทีมได้อีกด้วย
พยายามบ่นให้น้อยลง เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ เราควรจะมองหาวิธีแก้ปัญหามากกว่าที่จะบ่นเกี่ยวกับมันไปเรื่อย ๆ โดยไม่พยายามแก้ไขอะไร และถ้าหากว่าเราไม่มีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นไปในองค์กรหรือในตำแหน่งหน้าที่ของเราสิ่งที่เราควรทำคือพยายามหาทางแก้ไขสิ่งนั้น
ไม่เข้าสังคม
แน่นอนว่าเมื่อเราตัดสินใจที่จะเข้ามาทำงานในองค์กร เราต้องได้พบเจอและทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมแผนก หรือแม้กระทั่งต่างแผนก การเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงานยุคปัจจุบัน เนื่องจากไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในตำแหน่งไหน เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นทีมได้ หากเราเป็นคนที่ไม่เข้าสังคม คิดแต่ที่จะอยู่กับตัวเอง ไม่ให้ความร่วมมือกับส่วนรวมเท่าไร คงเป็นการยากที่เพื่อนร่วมงานของเราจะประทับใจในตัวเราได้
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ไม่ว่าเราจะมีโลกส่วนตัวขนาดไหน การสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ลองพยายามที่ตอบตกลงเวลามีใครชวนไปกินข้าวกลางวัน หรือนั่งพูดคุยหลังเลิกงาน สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้คือจุดเริ่มต้นที่ดีไม่น้อยในการเริ่มสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ไม่เคารพพื้นที่ หรือเวลาส่วนตัวของคนอื่น
การทำงานอย่างมืออาชีพได้นั้น เราต้องรู้จักพื้นที่ส่วนตัว และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมองค์กร รวมไปถึงหัวหน้าด้วย ถึงแม้ว่าตัวเราเองอาจไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร แต่การก้าวก่ายพื้นที่ส่วนตัว หรือเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะรบกวนเพื่อนร่วมงานแล้ว เรายังแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความไม่มืออาชีพของเราเองด้วย
เรียนรู้ที่จะเคารพพื้นที่และเวลาส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน อย่าคาดหวังว่าคนอื่น ๆ จะทิ้งทุกอย่างเพื่อมาให้ความช่วยเหลือเราได้ตลอดเวลา เราควรจะเอาใจเขา มาใส่ใจเรา และรู้จักกาลเทศะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปพูดคุย ขอความช่วยเหลือ รวมไปถึงเรื่องเล็ก ๆ อย่าง การส่งเสียงดังในที่ทำงาน นั่นก็ถือเป็นการไม่เคารพพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นเช่นกัน
ไม่เคยหยุดนินทา
การนินทาไม่เคยเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นการนินทาเรื่องอะไร หรือนินทาใคร นอกจากจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีแล้ว มันยังทำให้ความน่าเชื่อถือของตัวเราลดลงไปมาก อีกทั้งเพื่อนร่วมงานก็จะไม่ให้ความไว้วางใจที่จะพูดคุยหรือปรึกษาอะไรอีกด้วย การนินทาอาจเป็นเรื่องที่สนุกสนานที่เราอาจจะทำได้ในบางเวลา แต่มันสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานของเราไม่ชอบเราได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกัน
เลิกนินทาคนอื่นเถอะถ้าสามารถทำได้ หรือถ้าหากเราไม่ได้เป็นคนที่นินทาคนอื่นอยู่แล้ว จะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้าเราสามารถพาตัวเองออกจากกลุ่มนินทาประจำออฟฟิศ วิธีง่าย ๆ คือการเปลี่ยนบทสนทนาในกลุ่ม หรือขอตัวออกมาจากวงสนทนานั้น
ที่มา : JobThai.com/REACH