ในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นช่วงปิดท้ายของปี และเข้าสู่ช่วงเทศกาลที่สำคัญ โดยเฉพาะเทศกาลของชาวคริสต์ คือ Chrismas ซึ่งเด็กๆ ก็จะได้รับของขวัญจาก คุณลุง Santa Claus ที่จะส่งของขวัญให้ในตอนกลางคืน โดยใส่มาในถุงเท้าสีแดง ที่เด็กๆ จะแขวนไว้เพื่อรอรับของขวัญ
การลงทุนก็เช่นกัน ในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งถือเป็นเดือนที่ปิดงบ ปิดท้ายปี และจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่สร้างคงามสุขให้เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นทำให้ดัชนีทะยานปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจึงเรียกช่วงนี้ว่า Santa Claus Rally ซึ่งคาดว่าในปีนี้ อาจจะเกิดขึ้น
เหตุผลว่าทำไมถึงเกิด โดยเหตุผลแรกคือ ในช่วงเดือน ตุลาคมและพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตลาดสหรัฐปรับตัวลงค่อนข้างแรง ทำให้ caluation ที่เคยแพง กลับมาถูกลง (ซึ่งเป็นเรื่องปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้น) ในขณะที่โอกาสการเติบโตยังสูง (หากไม่นับรวมเรื่อง Trade War ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ตลาดน่าจะปรับตัวสูงกว่านี้มากเลยทีเดียว)
เหตุผลต่อมา ฝั่งด้านเทคนิคอล ที่ตลาดสหรัฐยังสามารถประคองดัชนีให้อยู่เหนือเส้น 200 วันได้ ซึ่งได้มีการทดสอบแล้วหลายรอบ สัญญาณนี้บ่งชี้ว่า ยังมีแรงซื้อกลับซี่งนั่นหมายถึง เศรษบกิจอาจชะลอตัวบ้าง แต่ไม่ได้แย่
ภาพเศรษฐกิจมหภาค การเจรจาเรื่องการค้าที่ออกมาดีขึ้น ข้อตกลงระหว่างนานาประเทศในเรื่องราคาน้ำมัน นัยทางการเมืองคลี่คลาย ทั้งฝั่งยุโรป และตะวันออกกลาง รวมถึงค่าเงินดอลล่าร์ที่แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยปรับตัวย่อลงจากจุด high เดิมในเดือนตุลาคม ย่อมเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดในเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีปัจจัยพื้นฐานเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมาก หากไม่มี noise เข้ามาทำให้เกิดความผันผวน
เทศกาลส่งท้ายปีเป็นอีก event ที่ทำให้มีแรงของการใช้จ่าย ทั้งสิ้นค้าและบริการ ซึ่งทำให้เกิดสภาพคล่องของตลาด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มของ domestic play และภาคบริการ โรงแรมท่องเที่ยว
ปัจจัยเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดที่ผลักดันให้เกิด Santa Rally แต่เชื่อว่าจะเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ในช่วงสัปดาห์กลางเดือนธันวาคม(11 – 20 ธันวาคมนี้)
ขอบคุณ Santa
