รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
จากคนที่เคยเต็มไปด้วยพลัง มีไอเดียร้อยแปด ทำทุกอย่างเต็มที่ต้องเอาให้สุดแม็กซ์ แต่ไปๆ มาๆ ทำไมฟันเฟืองมันเริ่มขับเคลื่อนได้ช้าลง เรี่ยวแรงและพลังที่เคยมีเกินหลอดค่อยๆ หายไป เหมือนนาฬิกาที่ถ่านเริ่มอ่อนแล้วเข็มค่อยๆ เดินช้าลง
แต่อาจมีคนแย้งขึ้นมาว่า “ไม่หรอก อย่างหมอนั่นต้องไม่แน่ๆ” นั่นเป็นความคิดที่ผิดถนัดเลยครับ เพราะลึกๆ แล้วคนเราทุกคน คิดอย่างก้าวหน้าอยู่เสมอ แม้เจ้าตัวจะบอกว่าไม่อยากก้าวหน้าก็ตาม ถ้าคุณรู้สึกว่าคนในทีม ขาดแรงจูงใจ ความรู้สึกนั้นย่อมเป็นเครื่องยืนยันว่า หัวหน้าอย่างคุณไม่สามารถจุดไฟ ในตัวลูกทีมให้ลุกโชนขึ้นมาได้ พูดง่ายๆ ก็คือ คุณไม่สามารถกระตุ้นให้พวกเขารู้สึก กระหายที่อยากจะก้าวหน้ากว่าที่เป็นอยู่
หากเมื่อความใฝ่ฝันกับความจริง ห่างไกลกันมากเกินไป และเรารู้สึกว่าไม่มีทางที่จะเติมเต็มช่องว่างนั้นได้ จนคิดว่าล้มเลิกความฝันนั้นไปซะน่าจะดีกว่า ไฟในตัวลูกทีมก็จะค่อยๆ ดับมอดลง และเมื่ออยู่ในสภาพหมดไฟนานเข้า คนเราก็มักจะกลายเป็นพวกซังกะตาย ซึ่งต้องใช้ความพยายามมหาศาล กว่าจะกลับมามีไฟได้อีกครั้ง
และเราจะจุดไฟในตัวลูกทีมให้ลูกชนได้อย่างไร สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือ ทำให้พวกเขามีเป้าหมายที่เหมาะสม
เป้าหมาย ที่ว่านี้จะเป็นอะไรก็ได้ ด้วยอาจเป็น “ความฝัน” “ความหวัง” “ภาพในอุดมคติ” “เป้าหมายใน หน้าที่การงาน” หรือแม้แต่ “โลกในจินตนาการ” คุณต้องชักจูงลูกทีม ให้มุ่งหน้าไปในทิศทางที่พวกเขาอยากไป แรกๆ เป้าหมายอาจยังดูพร่าเลือน แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะมันจะค่อยๆ คมชัดขึ้น ตามประสบการณ์และความชำนาญ ถ้าเจ้าตัวรู้สึกว่า แบบนี้ยังไม่ใช่ขึ้นมาก็ค่อย ไปปรับเปลี่ยนเอาตอนนั้น จริงอยู่ที่ว่าเป้าหมายต้องชัดเจน แต่ตอนเริ่มจะขมุกขมัวหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เมื่อลูกทีมได้เป้าหมายแล้ว หัวหน้าก็ควรกระตุ้นให้เดินหน้าเต็มสูบ พร้อมกับสัญญาว่า จะคอยสนับสนุนพวกเขา เมื่อนั้นไฟในตัวลูกทีมก็จะลุกโชนขึ้นมาเอง
ข้อมูลจาก: หนังสือแค่ทำให้คนเก่งขึ้น 1% คุณก็จะทำงานน้อยลง 99% โดย โคโนะ เอตาโร่