การเมืองกระทบ SMEs OTOP กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมวางแนวทางช่วยเหลือ


นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ผลกระทบด้านการเมืองได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะสินค้าเหล่านี้ส่วนหนึ่งไปผูกโยงกับการท่องเที่ยวและร้านค้าส่วนใหญ่อยู่กรุงเทพฯการท่องเที่ยวกรุงเทพฯตกยอดขายก็ตก ด้านการส่งออกก็ต้องอาศัยกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านการจัดงานแสดงสินค้า (บางกอกเจมส์) ซึ่งมีกำหนดจัดปลายเดือนกุมภาพันธ์ ปัจจุบันนี้มีการยกเลิกไปแล้วประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดจอง ยังไม่นับรวมสินค้าในหมวดของ OTOP ก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากสินค้า OTOP ส่วนใหญ่จะเป็นของที่ระลึก ซึ่งมีขนาดตลาดปลายปีถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเกิดสถานการณ์ชุมนุมยอดขายในส่วนนี้จึงได้รับผลกระทบตามไปด้วย

 

ด้านอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรองลงมาคือ อาหาร เกษตรแปรรูป สิ่งทอ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องหนังต่างก็ล้วนเป็นผลมาจากจิตวิทยาการบริโภคที่ไม่เอื้ออำนวย บางรายการมียอดขายลดไปถึงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เช่น  หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

 

อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกล่าวว่าในปี 2557 ได้วางยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนา SMEs ออกเป็น 4 ยุทธศาสตร์หลักประกอบด้วย 1.สนับสนุนปัจจัยเอื้อต่อการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรม 2.พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ทั้งรายใหม่และรายเก่า 3.พัฒนาตัวองค์กร โรงงานให้แข็งแกร่ง เน้นส่งเสริมด้านเทคโนโลยีและไอที 4.พัฒนาผู้ประกอบการและสินค้าให้สามารถแข่งขันในเวทีสากลและอาเซียน

 

ด้านแผนงานที่สำคัญในปี 2557 ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมุ่งเน้นที่จะช่วยเตรียมความพร้อมแก่ผู้ประกอบการในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนด้วยแผนงานหลัก 5 ด้านคือ 1.มุ่งส่งเสริม SMEsให้ก้าวสู่ซัพพลายเชนของอาเซียน ด้วยการฝึกอบรมและการสร้างเครือข่าย คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 157 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ 600 กิจการ 2.การเพิ่มผลิตภาพและนวตกรรมเพื่อการเติบโตของ SMEs มีเป้าหมายการดำเนินการ 1,025 กิจการ ใช้งบประมาณ 307.35 ล้านบาท 3.ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแฟชั่นอาเซียน ด้วยการสร้าง Brand และ Designer เพื่อไปสู่การสร้าง Fashion Trend ต่อไป เป้าหมายต้องการพัฒนา 225 กิจการ ด้วยงบประมาณ 160 ล้านบาท 4.พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารให้ได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน เป้าหมายจำนวน 170 กิจการ ด้วยงบประมาณ 48.6 ล้านบาท 5.การเพิ่มมูลค่าสินค้า OTOP   ด้วยการต่อยอดจากสินค้าเดิม ออกแบบและพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตั้งเป้าหมายไว้ 400 กิจการ 350 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ใช้งบประมาณ 105.75 ล้านบาท

 

นอกจากนี้นางอรรชกายังกล่าวว่าทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เตรียมเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่สำคัญอาทิ เครื่องมือความช่วยเหลือด้านการตลาดและการเงิน ด้านการเงินได้มีกองทุน Training Fun  ซึ่งเป็นงบส่งเสริมด้านการฝึกอบรมที่ทางกรมออกให้ส่วนหนึ่งผู้ประกอบการออกส่วนหนึ่งเพื่อช่วยด้านการยกระดับและพัฒนาด้านประสิทธิภาพต่างๆ

 

ผู้ประกอบการรายใดสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระราม 6 กรุงเทพฯ โทร 0 2202 4414-18 หรือ www.dip.go.th