เร่งทุกมาตรการ! แก้ไขปัญหายางพาราล้นตลาด-ราคาตกต่ำ


กยท.เร่งทุกมาตรการดันปริมาณยางออกสู่ระบบตลาดให้มากที่สุด โครงการช้อปยางล่าสุดมียอดรับซื้อ 1.7 พันตัน เร่งพัฒนาคุณภาพการผลิตได้ GMP ส่งผลิตเป็นล้อยางเครื่องบิน โครงการ 1 หมู่บ้าน ถนนยางพารา 1 กิโลเมตร ดำเนินการทันทีปีใหม่

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าโครงการช้อปยางช่วยยาง มีบริษัทผลิตยางล้อรถ เข้าร่วมแล้ว 5 บริษัท โดยรับซื้อยางพาราจากกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ชาวสวนยาง โดยตรง แจ้งปริมาณรับซื้อเบื้องต้น 1.7 พันตัน

นับว่าโครงการนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการพัฒนาคุณภาพการผลิตยางพาราของสถาบันเกษตรกรทั้งสหกรณ์และวิสาหกิจชุมชน ให้มีการผลิตยางที่ได้มาตรฐาน GMP ตามที่ตลาดต้องการ

ปัจจุบันมี 20 สหกรณ์ที่สามารถผลิตยางตามมาตรฐานได้ บริษัทผู้ผลิตล้อยางและแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางจึงพร้อมรับซื้อ ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรขายได้ราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ได้ประสานกับบริษัทล้อยางแห่งใหญ่ระดับโลกซึ่งมีโรงงานในไทยเพื่อเสนอขายยางพาราจากสหกรณ์ที่ผลิตยางได้มาตรฐาน GMP เพื่อใช้ผลิตเป็นล้อยางเครื่องบิน

“การพัฒนาคุณภาพยางพาราทั้งยางแผ่นและยางแท่งให้ได้มาตรฐาน GMP จะทำให้สามารถส่งขายแก่บริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางได้กว้างขวางและมีราคาสูงขึ้น” นายณกรณ์ กล่าว

รองผู้ว่าการการยางฯ ระบุด้วยว่า สำหรับโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร หลังกำหนดคู่มือแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ สำหรับถนนท้องถิ่น พร้อมหลักเกณฑ์และราคากลางก่อสร้างฯ เพื่อให้ อปท. ดำเนินการก่อสร้างเองหรือจ้างเหมาก่อสร้าง โดยมีวัตถุดิบเป็นน้ำยางจากบริษัทผู้ผลิต สถาบันและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ กยท. รับรองขณะนี้พร้อมเดินหน้าดำเนินโครงการอย่างเต็มที่ หลังมี “ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่อง ข้อแนะนำการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ สำหรับงานถนนท้องถิ่น”

ทั้งนี้ หากมีการสร้างถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ อย่างน้อยหมู่บ้านละ 1 กิโลเมตร ทั่วประเทศ จะมีระยะทางรวม 75,032 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้น้ำยางสดในปริมาณ 1,440,614.40 ตัน หรือคิดเป็นน้ำยางข้น 720,320.2 ตัน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 16,326.9632 ล้านบาท

นายณกรณ์ กล่าวว่าน้ำยางที่ใช้เป็นวัตถุดิบใช้ในการผสมในโครงการฯ ต้องใช้น้ำยางที่สหกรณ์สวนยางและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ กยท. รับรองเท่านั้น ล่าสุดนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศสำรวจความต้องการก่อสร้างถนนยางพาราขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า ต้องการสร้างถนนกี่สาย ระยะทางกี่กิโลเมตร เพื่อจะได้ทราบความต้องการใช้น้ำยาง

“เพื่อให้ทุกท้องถิ่นดำเนินการได้ทันทีในปีใหม่ เพิ่มปริมาณการใช้ยางพาราภายในประเทศและเป็นการพัฒนาคุณภาพถนน และยังช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยจากมาตรการต่างๆ ในการเร่งดูดซับปริมาณยางออกสู่ระบบตลาดนั้นทำให้ภายใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคายางแผ่นรมควันปรับตัวขึ้นกิโลกรัมละ 2 บาทแล้ว” นายณกรณ์ กล่าว