ส่องรายได้โรงงานยาสูบ กระทบหรือไม่ในวันที่บุหรี่ขึ้นราคา


โรงงานยาสูบ รัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงการคลังซึ่งมีหน้าที่ผลิตบุหรี่ นำรายได้เข้ารัฐ โดยในแต่ละปีนั้นสามารถทำเงินให้กับประเทศได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว ซึ่งในเรื่องนี้ รัฐบาลได้มีการสนับสนุนด้วยการใช้พื้นที่ในเขตอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 220 ไร่ เป็นฐานการผลิตแห่งใหม่

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าบุหรี่ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทำลายสุขภาพ เช่นเดียวกับสุรา แต่คนไทยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะบริโภค แม้ในวันที่เศรษฐกิจไทยจะดีหรือแย่ก็ตามที่ จึงทำให้รัฐฯ สามารถเก็บภาษีจากสินค้ากลุ่มนี้ได้เป็นจำนวนมาก ดูได้จากรายได้ย้อนหลังของการยาสูบแห่งประเทศไทย ดังต่อไปนี้

  • ปี 2557 ทำรายได้ 61,892 ล้านบาท มีกำไร 6,275 ล้านบาท
  • ปี 2558 ทำรายได้ 61,984 ล้านบาท มีกำไร 7,105 ล้านบาท
  • ปี 2559 ทำรายได้ 65,237 ล้านบาท มีกำไร 8,861 ล้านบาท
  • ปี 2560 ทำรายได้ 68,175 ล้านบาท มีกำไร 9,343 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากกรมสรรพสามิตมีการปรับภาษีครั้งใหญ่ในปี 2561 ที่เปลี่ยนวิธีเก็บภาษีตามปริมาณ และมูลค่ารวมกัน ส่งผลให้การยาสูบแห่งประเทศไทยต้องจ่ายภาษีให้กับกรมสรรพสามิตตามปริมาณมวนละ 1.20 บาท หรือซองละ 24 บาท ส่วนบุหรี่ในตลาดบนกำหนดราคาขายปลีกซองละ 60 บาทขึ้นไป ต้องเสียภาษีตามมูลค่าอีก 40% เช่นเดียวกับบุหรี่ในตลาดล่างที่มีกำหนดราคาขายปลีกซองละไม่เกิน 60 บาท จะต้องเสียภาษีมูลค่า 20%

จากการเก็บภาษีใหม่ของกรมสรรพากรในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาบุหรี่ทั้งในตลาดบน และตลาดล่าง ต้องปรับราคาขึ้นตามไปด้วย และนำไปสู่การจัดเก็บรายได้ที่ลดลงของการยาสูบแห่งประเทศไทย ดูได้จากไตรมาสแรกของปี 2561 ที่มีรายได้รวม 10,187 ล้านบาท ลดลงไป 6,405 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนไตรมาส 2 ของปี 2561 การยาสูบแห่งประเทศไทย มีรายได้รวม 14,239 ล้านบาท ลดลง 3,048 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ล่าสุด มีราชกิจจานุเบกษาประกาศกรมสรรพสามิต เรื่องกำหนดมูลค่าสินค้ายาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการกำหนดค่าปรับ โดยขึ้นราคาบุหรี่ซิกาแรตขนาดบรรจุซองละ 20 มวน เริ่มต้นซองละ 80 บาท

อาจจะกล่าวได้ว่า การปรับขึ้นราคาบุหรี่ในครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของการยาสูบแห่งประเทศไทยที่ลดลงกว่าเดิม เพราะด้วยราคาบุหรี่ต่อซองที่แพงขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคต้องคิดทบทวนเวลาการตัดสินใจซื้อ โดยอาจจะใช้วิธีลดความถี่ในการซื้อลดลง หรือหาทางเลือกอื่นที่จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า หรือคิดอีกมุมหนึ่งนี่อาจจะเป็นวิธีให้คนไทยลดการสูบบุหรี่ เพื่อนำมาสู่สุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บก็เป็นได้