“FlyZoo” โรงแรมแห่งอนาคตของ “อาลีบาบา” ที่ที่มีแค่เรากับ AI


อาลีบาบาขยับแรง รุกตลาดด้านการบริการเปิดตัว “FlyZoo” โรงแรมแห่งอนาคต ใช้หุ่นยนต์ทำหน้าที่แทนคน ตั้งแต่เช็กอิน ยันรูมเซอร์วิส

แม้สถานะของ อาลีบาบา จะถูกจัดให้เป็น “เจ้าพ่อ” ของวงการอีคอมเมิร์ซของโลก แต่การขยับล่าสุดของยักษ์ใหญ่จากจีนแบรนด์นี้ ก็ก้าวเข้าสู่ถนนของอุตสาหกรรมด้านการบริการอย่าง “โรงแรม” เป็นที่เรียบร้อย

การเปิดตัวโรงแรมของอาลีบาบาที่ชื่อว่า “FlyZoo” ถือว่าเขย่าวงการที่พักอาศัยของโลกได้ทันที เพราะทุกอย่างในโรงแรมนี้ เป็นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาจัดการบริการให้ผู้เข้าพักแทน “มนุษย์” แทบจะทุกหน้าที่
FlyZoo ถูกนิยามจากสื่อหลายสำนักของโลกว่าคือโรงแรมแห่งอนาคต โดยเปิดให้บริการในเมืองหางโจว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง และเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่อาลีบาบา

จุดเด่นของ FlyZoo คือลูกค้าที่จะมาพัก เมื่อเดินเข้ามาถึงจะเจอกับ “หุ่นยนต์” ที่จะทำการเช็คอินเข้าพักด้วยระบบแสกนใบหน้า ก่อนที่หุ่นยนต์จะพาแขกไปส่งยังห้องพักที่ได้จองเอาไว้ ภายในห้องพักของโรงแรม จะอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัยของอาลีบาบา และจุดสำคัญคือ “ลำโพงอัจฉริยะ” ที่ชื่อว่า Tmall Genie จะตั้งอยู่ภายในห้อง ลำโพงตัวนี้จะทำหน้าที่รับคำสั่ง “เสียง” เพื่อปรับทุกอย่างในห้องพัก ทั้ง อุณหภูมิ ระบบไฟส่องสว่าง เปิดปิดโทรทัศน์ และแม้แต่การสั่ง “รูมเซอร์วิส” ก็ใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงตัวนี้ รวมถึงไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร ก็จะถูกนำมาเสริฟให้ถึงห้องพักด้วยหุ่นยนต์

ลำโพงอัจฉริยะ ยังเป็นกลไกสำคัญที่อาลีบาบาวางหน้าที่ให้เป็นตัวกลางในการสั่งซื้อสินค้าของอาลีบาบาอีกด้วย ไม่เพียงแค่สินค้าออนไลน์ของแบรนด์ยักษ์จากจีนนี้เท่านั้น หากแต่ยังทำหน้าที่สั่งซื้อสินค้าตามห้างร้านต่างๆ ได้อีก ไม่เว้นแม้แต่สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วย

และแน่นอนว่า เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ของทุกอย่างที่ใช้ในห้องพัก และในโรงแรม ก็มาจากสินค้าในเครือของ อาลีบาบา “ทุกชิ้น” และสินค้าที่วางอยู่ ไม่ได้ทำหน้าที่แค่อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้พัก แต่เมื่อสนใจอยากได้ แขกที่พักก็แค่ถ่ายรูปสินค้านั้นผ่านแอพลิเคชั่นของอาลีบาบา เมื่อคำสั่งซื้อปรากฎ สินค้า ก็พร้อมจะไปส่งยังเป้าหมายปลายทางของแขกที่พักในทันที

ระบบของโรงแรมแห่งอนาคตของ Alibaba ถูกพัฒนามาจากการทำวิจัยและพัฒนาในห้องทดลองของ Alibaba ที่มุ่งไปที่การพัฒนา AI การเปิดตัวโรงแรมนี้ Alibaba แสดงจุดยืนในงานเปิดตัวว่า “โซลูชั่นในการจัดการโรงแรมแห่งอนาคตนี้สามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจที่พักในจีนได้และเพิ่มประสบการณ์ใหม่ของผู้เข้าพักอีกด้วย”

อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยเม็ดเงินลงทุนในโรงแรมแห่งนี้ว่าใช้ไปกี่มาก-น้อย แต่ราคาค่าห้องพักหากใครสนใจจะมาสัมผัสความเป็น “อนาคต” ก็ต้องจ่ายกันที่คืนละ 1,399 หยวน หรือราว 6,700 บาท กับธีมห้องพักที่มีให้เลือก 7 แบบด้วยกัน
FlyZoo จึงถูกจัดให้เป็นโรงแรมแห่งอนาคต โดยปัญญาประดิษฐ์ที่จะใช้ในโรงแรมถูกพัฒนาขึ้นมาในห้องแล็ป เพื่อสะท้อนเป้าหมายของ “แจ๊ค หม่า” เจ้าของอาลีบาบา ที่ต้องการให้ FlyZoo เป็นต้นแบบในการจัดการที่พักโรงแรมในประเทศจีน และมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ที่เข้าพัก แต่ไม่มีการเปิดเผยถึงเม็ดเงินของอาลีบาบาที่ลงทุนไปกับงานด้านบริการแพลตฟอร์มใหม่นี้ กระนั้นก็ตาม โรงแรมที่ใช้หุ่นยนต์ดำเนินการกว่า 90% มันทำให้ผู้เข้าพักแทบจะไม่ได้สนทนากับ “มนุษย์” คนไหนที่เป็นเจ้าหน้าที่โรงแรมเลย แต่ก็มีเพียงฟังก์ชั่นจากมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวที่จะได้พบเจอ นั่นคือ “พนักงานทำความสะอาด”

“โซลูชั่นที่ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลา และช่วยลดภาระให้กับพนักงานโรงแรมที่ต้องทำงานซ้ำๆ ซึ่งเราจะใช้หุ่นยุนต์มาทำหน้าที่แทน” หวัง ชุน ซีอีโอของ FlyZoo นิยามถึงโรงแรมแห่งนี้ที่บริหารอยู่

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว asia.nikkei.com สะท้อนเสียงจากนักวิเคราะห์ว่า โรงแรมแห่งอนาคตของอาลีบาบา จะสร้าง “งานบริการ” ที่ประทับใจผู้เข้าพักได้เหมือนกับมนุษย์ได้หรือไม่ เพราะแทบทุกอย่างในโรงแรมถูกจัดการด้วยหุ่นยนต์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทั้งหมด แต่แน่นอนว่ามันเป็นผลดีในแง่ของการขาดแคลนแรงงานด้านบริการที่หลายประเทศกำลังประสบอยู่ ซึ่งแนวทางของ FlyZOO อาจตอบโจทย์ปัญหานี้ได้ชะงัก

แต่ที่น่าสนใจคือ FlyZOO ไม่ได้เป็นเจ้าแรกของโลกที่พัฒนาโรงแรมแห่งอนาคต หรือโรงแรมระบบอัจฉริยะขึ้นมา เพราะในปี 2558 ญี่ปุ่นก็เปิดโรงแรมในลักษณะนี้ขึ้นมาแล้ว โดยใช้หุ่นยนต์ที่เป็นไดโนเสาร์ และหุ่นยนต์มนุษย์ทำหน้าที่แทนพนักงานต้อนรับ และแทนพนักงานยกกระเป๋า หรือแม้แต่ที่สิงคโปร์ ก็เริ่มใช้หุ่นยนต์ในหน้าที่ “รูมเซอร์วิส” ด้วยเช่นกัน รวมถึงบริษัทจากจีนอย่าง Smart LYZ ก็เปิดตัวโรงแรมอัตโนมัติแบบ 100% ในเมืองเชิงตูเมื่อต้นปี 2561 และมีแผนจะขยายไปอีก 50 แห่งครอบคลุมทุกมณฑลของจีน

กระนั้นก็ตาม ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า แรงขยับของ “อาลีบาบา” ในอุตสาหกรรมด้านการบริการย่อมเป็นที่น่าจับตามองไม่น้อย