รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
อย่างที่ทราบกันดีว่า ช่วงนี้ คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลกำลังเผชิญกับสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีนักของ โดยจากข่าวสารการรายงานสภาพอากาศช่วงหลายวันที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทั้งยังมีหลายจุดที่น่าเป็นห่วง โดยเริ่มมีผลกระทบกับสุขภาพประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ยิ่งน่ากังวลเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางฝุ่นละอองขนาดเล็กจำนวนมหาศาลเหล่านี้
วันนี้ Smart SME ได้รวมเอาประมาณการณ์ค่ารักษา หากเกิดโรคที่แสนอันตรายอย่าง มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดที่เกิดจากการสูดดมควันพิษ มาฝากกัน แต่ขอย้ำว่าไม่ใช่ข้อมูลที่ทำให้คื่นตระหนกจนเกินไป แต่เราอยากให้คุณระมัดระวังในการใช้ชีวิตและหากหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ได้ ก็จะดีต่อสุขภาพของตัวเราเองค่ะ
หากเป็นโรคมะเร็งปอด จะต้องเสียเงินให้ค่ารักษาเท่าไหร่
ค่ารักษาโรคมะเร็งปอด (โดยประมาณ)
***ในระยะเริ่มต้น
– ค่าวินิจฉัยโรค 60,000 บาท
– เคมีบำบัด 100,000 บาท
– รังสีรักษา 150,000 บาท
– ผ่าตัด 200,000 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 510,000 บาท
***ในระยะแพร่กระจาย
– ค่าวินิจฉัยโรค 60,000 บาท
– เคมีบำบัด 100,000 บาท
– รังสีรักษา 150,000 บาท
– ยารักษามะเร็งแบบพุ่งเป้า 1,752,660 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 2,062,660 บาท
ทั้งนี้ หากคุณรักษาตัวในโรงพยาบาลของรัฐบาล ค่าใช้จ่ายจะต่ำกว่าประมาณ 30-40%
อย่างไรก็ตาม ความไม่มีโรค ถือเป็นลาภอันประเสิรฐ ไม่ว่าใครก็คงอยากมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เห็นค่ารักษาแพงหูฉี่ขนาดนี้แล้ว ก็ขอให้คุณหันมาใส่ใจ ดูแลการใช้ชีวิต ออกนอกบ้านช่วงนี้ขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกาย (ในบ้าน) อยู่เสมอ เพื่อให้คุณปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและอายุยืนยาวไปอีกนาน
ที่มา : elife.azay.co.th
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง