37% ขององค์กรทั้งหมดได้รับผลกระทบจากมัลแวร์ขุดบิตคอยน์ตลอดปีที่ผ่านมา


เช็คพอยท์เผยว่ามี 20% ของบริษัททั่วโลกยังคงถูกโจมตีทุกสัปดาห์จากมัลแวร์ขุดบิตคอยน์ มี 33% ที่ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์บนโทรศัพท์มือถือ และมีแค่ 4% ที่โดนแรนซัมแวร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

โดยยุทธวิธีหลักๆ ที่อาชญากรคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อโจมตีองค์กรทั่วโลกในอุตสาหกรรมต่างๆ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์เพื่อปกป้ององค์กรของตนจากการโจมตีและภัยคุกคามทางคอมพิวเตอร์ในยุคที่ 5

มัลแวร์ขุดบิตคอยน์ยึดหัวหาดการโจมตีเป็นส่วนใหญ่

มัลแวร์ขุดบิตคอยน์ติดสี่อันดับแรกของมัลแวร์ที่ชุกชุมที่สุดและส่งผลกระทบต่อองค์กรทั่วโลกจำนวน 37% ในปี 2561 แม้ว่ามูลค่าของสกุลเงิน cryptocurrency ทั้งหมดเริ่มตก แต่บริษัทต่างๆ จำนวน 20% ยังคงถูกโจมตีทุกสัปดาห์จากมัลแวร์ที่แอบขุดบิตคอยน์ และเมื่อเร็วๆ นี้ มัลแวร์ขุดบิตคอยน์ยังได้พัฒนาไปอย่างมากโดยอาศัยช่องโหว่ที่รู้จักดีและหลบเลี่ยงระบบแซนด์บ็อกซ์และระบบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อแพร่กระจาย

โทรศัพท์มือถือคือเป้าเคลื่อนที่

องค์กรจำนวน 33% ทั่วโลกถูกโจมตีโดยมัลแวร์บนโทรศัพท์มือถือ โดยมัลแวร์ 3 ประเภทแรกที่ติดอันดับได้พุ่งเป้าการโจมตีที่ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ในปี 2561 พบหลายกรณีที่มัลแวร์บนโทรศัพท์มือถือถูกติดตั้งไว้ล่วงหน้า และมีแอพจากแอปสโตร์ซึ่งแท้จริงแล้วคือมัลแวร์เสียเอง

บ็อตเน็ตอเนกประสงค์ที่โจมตีหลายรูปแบบ

บ็อตเป็นประเภทของมัลแวร์ที่พบมากเป็นอันดับสาม โดยมีองค์กรจำนวน 18% ที่ถูกบ็อตใช้เป็นฐานในการโจมตีแบบระดมยิง หรือดีดอส (DDoS) และเป็นฐานในการเผยแพร่มัลแวร์อื่นๆ การติดมัลแวร์ประเภทบ็อตมีผลทำให้องค์กรเกือบครึ่งหนึ่ง (49%) ถูกโจมตีด้วย ดีดอสในปี 2561

แรนซัมแวร์โจมตีน้อยลง

แรนซัมแวร์ลดลงอย่างมากในปี 2561 โดยส่งผลแค่ 4% ขององค์กรทั่วโลก

การโจมตีในยุคที่ 5 จากหลายจุดที่รวดเร็วและในวงกว้างเช่นนี้เริ่มเกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ องค์กรต้องใช้กลยุทธ์ด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์แบบหลายชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายและข้อมูลขององค์กรถูกยึดครอง

แผงผังแสดงประเภทของการโจมตีทางคอมพิวเตอร์ที่พบมากที่สุดทั่วโลกและจำแนกตามภูมิภาค